ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ ถูกพัฒนาให้เหนือระดับไปอีกขั้น เพื่อการใช้งานแบบอเนกประสงค์ ด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ทั้งบนถนนและแบบออฟโรด ไปจนถึงตัวเลือกเครื่องยนต์ ที่มอบทั้งความทนทาน และประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงให้แก่ลูกค้า โดยมีให้เลือกเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบเดี่ยว และเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ 2.0 ลิตร 4 สูบแถวเรียง ที่ทรงประสิทธิภาพ
ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ มาพร้อมตัวเลือกเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แบบเดียวกับที่ใช้ในฟอร์ด F-150 และ ฟอร์ด F-150 แร็พเตอร์ ซึ่งได้รับการทดสอบมามากกว่า 6 ล้านกิโลเมตร และยังใช้การแข่งออฟโรด ระยะทางกว่า 3,900 กิโลเมตร ซึ่งในการทดสอบนั้น ยังรวมถึงการแข่งขัน Baja 1000 ด้วยโดยระบบเกียร์ดังกล่าวนี้ มีในรถฟอร์ดที่มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบคู่ 2.0 ลิตร ทั้งในเรนเจอร์ และเอเวอเรสต์
โดยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบเดี่ยว มาพร้อมตัวเลือก 2 แบบ คือ รุ่นที่ให้พละกำลัง 150 PS ที่ 3,500รอบต่อนาที และแรงบิด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,750 รอบต่อนาที และรุ่นที่ให้กำลัง 170 PSที่ 3,500 รอบต่อนาทีและแรงบิด 405 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที
ส่วนเครื่องยนต์เทอร์โบคู่ 2.0 ลิตรของฟอร์ด มอบพละกำลัง 210 PS ที่ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,000 รอบต่อนาที โดยในห้องเครื่องยังมีพื้นที่ให้ติดตั้งแบตเตอรี่สำรองอีกลูก เพื่อจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์การตั้งแคมป์ และอุปกรณ์อื่นๆ
ด้วยฐานล้อที่กว้างและยาวขึ้น ช่วยเพิ่มความมั่นคงในการขับขี่ทั้งบนทางเรียบและออฟโรด ด้วยมุมเงย 30 องศา (เพิ่มจาก 28.5 องศาในรุ่นก่อนหน้า) และมุมจากด้านหลัง 23 องศา (เพิ่มจาก 21 องศาในรุ่นก่อนหน้า) รวมทั้งมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พื้นฐานซึ่งเป็น “ระบบชั่วคราว” โดยมีทรานสเฟอร์เคส ควบคุมด้วยไฟฟ้าทำงานแบบ 2 จังหวะ และมี Shift-on-the-fly มาพร้อมโหมดการขับขี่แบบ 2H, 4H และ 4L ตลอดจนเฟืองท้ายแบบ Locking Rear Differential ที่สามารถเปิดใช้งานได้ผ่านหน้าจอระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 4A® โดยเฟืองท้ายจะทำให้ล้อบนเพลาเดียวกันหมุนที่ความเร็วเท่ากัน เพื่อเพิ่มการยึดเกาะถนนขณะขับขี่ออฟโรด
โดยเรนเจอร์เฉพาะรุ่น จะมีโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 6 โหมด ได้แก่ โหมดปกติ โหมดประหยัด โหมดลากจูงและบรรทุก (เฉพาะรุ่นเกียร์อัตโนมัติเท่านั้น)โหมดถนนลื่นสำหรับการขับขี่ทางเรียบ และโหมดโคลน และโหมดทราย สำหรับการขับขี่บนเส้นทางออฟโรด นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลสำหรับการขับขี่แบบออฟโรดโดยเฉพาะบนระบบเชื่อมต่อการสื่อสาร SYNC 4A® เพียงปลายนิ้วสัมผัส ซึ่งจะแสดงผลการตั้งค่าระบบส่งกำลังและระบบดิฟล็อก องศาการบังคับควบคุมพวงมาลัย มุมการเอียงของรถ ไปจนถึงกล้องหน้าที่มาพร้อมเส้นกะระยะ
ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ สามารถลุยน้ำได้สูงสุดถึง 800 มิลลิเมตร ที่ความเร็ว 7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่หลังคารองรับน้ำหนักได้มากถึง 350 กิโลกรัม ขณะรถจอดอยู่กับที่ และรับน้ำหนักได้มากถึง 85 กิโลกรัม ขณะรถเคลื่อนที่ รวมถึงการบรรทุกสัมภาระหลากหลายรูปแบบในบริเวณกระบะท้าย ตั้งแต่ห่วงยึดสัมภาระบนท้ายกระบะ และขอบกระบะ จุดยึดอุปกรณ์ช่างบนฝาท้าย และจุดยึด 6 จุด สำหรับติดตั้งและใช้งานอุปกรณ์เสริมบริเวณท้ายกระบะ
ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ ผ่านการทดสอบมาแล้วกว่าหลายล้านกิโลเมตรใน 10 ประเทศทั่วโลก เพื่อให้มั่นใจว่ารถคันนี้ไม่เพียงตอบโจทย์ความต้องการ แต่ยังมอบสิ่งที่เหนือความคาดหวังของลูกค้า ทั้งด้านสมรรถนะ คุณภาพ ความไว้วางใจได้ และความทนทาน นอกจากการทดสอบรถทั้งคันในสภาพแวดล้อมจริงแล้ว ฟอร์ดยังทดสอบส่วนประกอบเฉพาะชิ้นด้วย ตั้งแต่ระบบกันสั่นสะเทือน ชุดลาก โครงรถ ประตู ฝาท้าย แผงตัวถัง กันชน เบาะที่นั่ง และชิ้นส่วนอื่นๆที่ลูกค้าจับ สัมผัส หรือกระแทก โดยจะทดสอบจนกว่าชิ้นส่วนจะถึงจุดแตกสลายในสภาพแวดล้อมที่ควบคุม เพื่อค้นหาจุดอ่อนที่อาจเกิดขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี