นายสมพงษ์ อัศวบุญมี ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์โทรศัพท์บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ NT เปิดเผยว่า จากกรณีที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์กำลังสร้างความเดือดร้อนอย่างหนักให้แก่ประชาชนในขณะนี้ ทาง NT ร่วมแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน โดยในส่วนชุมสายโทรศัพท์ระหว่างประเทศของ NT ได้ดำเนินการตรวจสอบความผิดปกติของหมายเลขโทรศัพท์ที่เรียกเข้าจากต่างประเทศตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อพบความผิดปกติจะระงับการโทรจากหมายเลขต้นทางดังกล่าวและแจ้งไปยังบริษัทผู้ให้บริการในต่างประเทศตรวจสอบทันที โดยพบว่าหมายเลขโทรศัพท์เรียกเข้าที่มีลักษณะผิดปกติเข้าข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะมีรูปแบบหมายเลขต้นทางไม่ถูกต้อง หรือมีลักษณะการเรียกติดต่อไปยังหมายเลขปลายทางที่ผิดปกติ เช่น หมายเลขที่ไม่มีในระบบ (Unassigned No., Spare Code) หมายเลขที่ไม่มีตัวตน รวมถึงหมายเลขที่มีการโทรเข้ามายังหมายเลขปลายทางจำนวนมากในเวลาเดียวกัน
ทั้งนี้ เพื่อร่วมป้องกันการเกิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างครบวงจร NT ได้ปรับรูปแบบหมายเลขโทรศัพท์ระหว่างประเทศขาเข้าให้มีรูปแบบตามมาตรฐานโทรคมนาคมของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU-T)รูปแบบเดียว คือ มีเครื่องหมาย “+” นำหน้าตามด้วยรหัสประเทศ เช่น +381631900756 พร้อมแจ้งให้ประชาชนรับทราบและเฝ้าระวัง หากมีสายเรียกเข้าที่มีหมายเลขต้นทางขึ้นต้นด้วย + ให้พึงสังเกตหากไม่ได้มีญาติหรือผู้ติดต่อที่อยู่ต่างประเทศให้งดรับสายในทุกกรณี
ก่อนหน้านี้ AIS แจ้งว่า หลังจากเปิดบริการสายด่วน 1185 ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน หรือ AIS Spam Report Center เมื่อวันที่ 8 เม.ย.2565 จนถึง 22 เม.ย.2565 AIS ได้ดำเนินการรับเรื่องร้องเรียนจากลูกค้า รวมถึงได้ตรวจสอบข้อมูลพบมิจฉาชีพทั้งเบอร์โทรและ SMS แล้วกว่า 1,000 ราย ซึ่งได้ทำการส่งข้อมูลดังกล่าวไปให้กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตำรวจไซเบอร์ แล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี