ห้ามรถส่งสินค้าเข้าเขตทหารทั่วปท.
ทบ.แบน‘ลาซาด้า’
ทุกหน่วยห้ามสั่งของ-หลังโฆษณาหมิ่น
ไม่ห้ามสั่งส่วนตัว-ให้ไปรับข้างนอก
ศรีสุวรรณยื่น‘ดีอีเอส’จี้ปิด‘ลาซาด้า’
‘ชัยวุฒิ’สั่งรวบรวมพยานหลักฐาน
ลั่นเอาผิดตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
ขอเอเจนซี่โฆษณาระวังเนื้อหา
กองทัพบก ออกโรงแบน“ลาซาด้า”ผบ.ทบ.ห้าม“สั่ง-รถส่งสินค้า”เข้าหน่วยทหารทั่วประเทศ หลังทำโฆษณาไม่เหมาะสมก้าวล่วงหมิ่นสถาบันฯ“ศรีสุวรรณ”บุก ดีอีเอส จี้ใช้อำนาจตามก.ม.ขอให้ศาลสั่งปิด ลาซาด้า/เพจนารา เครปกะเทย ด้าน“ชัยวุฒิ”สั่งรวบรวมพยานหลักฐาน เตรียมใช้กฎหมายลงดาบ โฆษณาไม่เหมาะสม“ลาซาด้า-นารา เครปกะเทย”พบ 42 ยูอาร์แอล ช่องทางแชร์คลิป เตรียมประสานศาล-แพลตฟอร์มสั่งปิดกั้นลั่นเอาผิดทุกกลุ่มให้ถึงที่สุดวอนอินฟลูเอนเซอร์-เอเจนซี่โฆษณา ระมัดระวังเนื้อหา จ่อใช้พรฎ.กำกับแพลตฟอร์มดิจิทัล คลอดเร็วๆ นี้
เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2565ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากกรณีจากคลิปและภาพโปรโมตจากอินฟลูเอนเซอร์“นารา เครปกะเทย”หมิ่นเหม่ พาดพิงบุคคลและเป็นการล้อเลียนลักษณะทางร่างกายที่เกิดจากความเจ็บป่วยในโฆษณาของลาซาด้า ในลักษณะพาดพิง ก้าวล่วงสถาบันเบื้องสูงและบูลลี่คนพิการ อันกระทบต่อศีลธรรมจรรยา เกิดความแตกแยกในสังคม และกระทบต่อความมั่นคงของชาติเป็นที่มาของลาซาด้าแถลงการณ์ขออภัยต่อสังคม
ทบ.แบนลาซาด้าสั่งเข้าหน่วยทหารทั่วปท.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.)ได้สั่งการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบกประจำวัน พร้อมสั่งให้หน่วยทหารทั่วประเทศ งดสั่งสินค้าจาก Lazada ร่วมถึงห้ามรถส่งสินค้าเข้ามาในพื้นที่หน่วยทหารแต่ไม่ห้ามกำลังพลในการสั่งซื้อสินค้า หากมีการสั่ง ก็ให้ออกไปรับนอกพื้นที่หน่วยทหาร
พันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยการประชุมหน่วยทหารกองทัพบกทั่วประเทศผ่านระบบออนไลน์เช้าวันนี้ มีพลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานว่าจากการที่แพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ Lazadaได้มีการนำเสนอโฆษณาด้านการตลาด( Content ) ในลักษณะที่ก้าวล่วงสถาบัน บ่อนทำลาย และกระทบต่อความรู้สึกของคนไทยอย่างร้ายแรง
ล่าสุด ในส่วนของกองทัพบกได้มีนโยบายห้ามทุกหน่วยทหารในสังกัด หรือกิจการใดๆของกองทัพบก ใช้บริการสั่งสินค้าจากแพลตฟอร์มLAZADAรวมทั้งไม่อนุญาตให้มีการส่งของจากแพลตฟอร์ม LAZADA เข้ามาในพื้นที่ของหน่วยทหาร หรือพื้นที่ที่กองทัพบกให้การดูแล ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแสดงออกถึงเจตนารมณ์ในการปกป้องสถาบันและใช้มาตรการทางสังคมต่อองค์กรที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม และสร้างความแตกแยกในสังคมไทย ทั้งนี้ตั้งแต่วันนี้(9พ.ค. 65)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้นรถส่งของLazada สามารถเข้าพื้นที่ไปส่งของด้านประตูหลัง ของกองบัญชาการกองทัพบกได้
ศรีฯยื่น‘ดีอีเอส’เชือดLazada-เพจนารา
วันเดียวกัน ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางเข้ายื่นคำร้องต่อ รมว.กระทรวงดิจิทัลฯพร้อมพยานหลักฐาน เพื่อขอให้ใช้อำนาจตามกฎหมายในการขอให้ศาลพิจารณาสั่งปิดแพลตฟอร์ม Lazada และเว็บเพจ นารา เครปกระเทย ที่ได้จัดทำและเผยแพร่คลิปวิดีโอและภาพนิ่งโปรโมตแคมเปญสินค้าลดราคาในสื่อออนไลน์เมื่อวันที่4พ.ค.ที่ผ่านมาในลักษณะพาดพิง ก้าวล่วงสถาบันเบื้องสูง และบูลลี่คนพิการ อันกระทบต่อศีลธรรมจรรยา เกิดความแตกแยกในสังคม และกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
โดยนายศรีสุวรรณกล่าวว่าแม้เจ้าของ เว็บเพจนารา เครปกระเทย หรือ นายอนิวัติ ประทุมถิ่น จะได้ออกมาภาคเสธต่อการกระทำดังกล่าว แต่การที่บริษัทเอเยนซี่และบริษัท ลาซาด้า ประเทศไทย ออกแถลงการณ์ขอโทษต่อกรณีดังกล่าว ก็เป็นการยอมรับในข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แม้คำขอโทษจะปฏิเสธความรับผิดชอบใดๆก็ตาม ต่เนื่องจากพฤติการณ์และการกระทำที่เกิดขึ้นปวงชนชาวไทยที่เทิดทูน เคารพศรัทธาในสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงมิอาจยอมรับและให้อภัยได้ กรณีดังกล่าว เป็นความผิดทางอาญาหลายกรรมหลายวาระ อันเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาม.112 ประกอบม.14(3)แห่งพรบ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์2550 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่2พ.ศ.2560เป็นอำนาจหน้าที่ของ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(ปอท.)ที่จะต้องบังคับใช้กฎหมายรวบรวมพยานหลักฐานเสนอไปยังอัยการเพื่อยื่นต่อศาลพิจารณาพิพากษาลงโทษขั้นสูงสุดต่อไป
จี้ปิดแพลตฟอร์มก้าวล่วงสถาบัน
“กรณีเจ้าของแพลตฟอร์ม Lazada และเว็บเพจนารา เครปกระเทยนั้น ผู้ที่มีอำนาจในการดำเนินการลงโทษ โดยการสั่งปิด เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อเพจหรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ ต่อไปได้นั้น อยู่ในอำนาจหน้าที่กระทรวงดีอีเอส ที่จะต้องดำเนินการทำคำฟ้องเสนอต่อศาล เพื่อขอให้ศาลสั่งปิดเพจและแพลตฟอร์มดังกล่าว เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการก้าวล่วงสถาบันเบื้องสูง ที่ผ่านมาเมื่อปีที่แล้วดีอีเอสเคยดำเนินงานระงับข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ไม่เหมาะสมที่กระทำความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯกรณีหมิ่นสถาบันฯไปแล้วมากกว่า100คำสั่งศาล 2,032 รายการ(URLs)โดยได้ดำเนินการประสานแจ้งความกับปอท.แล้วกว่า581URLs เว็บลามกอนาจาร 9 คำสั่งศาล 179รายการ การละเมิดลิขสิทธิ์ 3 คำสั่งศาล 47 รายการและเว็บพนันออนไลน์ 4 คำสั่ง 409 รายการ รวม 116 คำสั่งศาลมากกว่า 2,667 รายการ”นายศรีสุวรรณ ย้ำ
ชงดีอีเอส ต้องเชือดไก่ให้ลิงดู
พร้อมระบุทิ้งท้ายว่า เมื่อกรณีแพลตฟอร์มค้าขายสินค้าชื่อดังจากต่างประเทศใดๆที่บังอาจเข้ามาทำการค้าขายโดยก้าวล่วงสถาบัน ไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ โพสต์ข้อความอันเป็นเท็จ สร้างความตื่นตระหนก สร้างความสับสนแตกแยกให้กับประชาชนและกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ดีอีเอส จะต้องเชือดไก่ให้ลิงดู ไม่ลูบหน้าปะจมูก แม้จะเป็นแพลตฟอร์มที่ใหญ่มาจากไหนก็ตาม
“ชัยวุฒิ”สั่งรวบรวมพยานหลักฐาน
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.กระทรวงดีอีเอส)ให้สัมภาษณ์ถึงที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยยื่นเรื่องต่อกระทรวงดีอีเอสเพื่อขอให้ร้องศาลสั่งปิดเว็บไซต์และแพลตฟอร์มขายสินค้าชื่อดัง ที่ปล่อยให้มีการเผยแพร่โฆษณาที่มีเนื้อหาหมิ่นสถาบันว่าทางกระทรวงดีอีเอส ติดตามเรื่องนี้ตั้งแต่ทราบข่าวว่า มีการโพสต์ไม่เหมาะสมในแพลตฟอร์มชื่อดัง จึงได้รวบรวมพยาน หลักฐานจากทุกช่องทางยูทูป เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์
ขอศาล-แพลตฟอร์มสั่งปิด42ยูอาร์แอล
“พบว่ามี42 ยูอาร์แอลที่แชร์ข้อมูลจึงได้ประสานงานกับทางแพลตฟอร์มให้มีการปิดกั้น เทคดาวน์ไปแล้ว และจะดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุดกับผู้มีความผิด พร้อม จะขอคำสั่งศาลสั่งปิดกั้นด้วย หากแพลตฟอร์ม ยังไม่ปิดกั้นแต่คิดว่าน่าจะปิดได้หมด ไม่มีปัญหา”นายชัยวุฒิ ย้ำ
ลั่นเอาผิดตามกม.ทั้ง3กลุ่มให้ถึงที่สุด
รมว.ดีอีเอสกล่าวว่าทั้งนี้ จะดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด กับผู้กระทำผิดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น นาราเครปกระเทย ที่เป็นเจ้าของโพสต์บริษัทโฆษณา ตัวแพลตฟอร์ม ประกอบด้วย 3กลุ่มซึ่งต้องดำเนินคดีทั้ง 3 กลุ่ม ส่วนใครจะมีความผิดอย่างไร ต้องดำเนินไปตามกฎหมาย ฝากเตือนไปยังอินฟลูเอนเซอร์หรือผู้ที่จะโพสต์ข้อความคลิปต่างๆรวมถึงเอเจนซี่โฆษณาอยากให้มีความระมัดระวังโพสต์ที่จะกระทบความรู้สึกของคนไทยหรือผิดกฎหมาย ผิดจรรยาบรรณสื่อในการโฆษณาอยากให้ทำงานด้วยความระมัดระวัง
“ยืนยันว่าไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก เพราะกระทบความรู้สึกคนไทย โดยเฉพาะแพลตฟอร์มเอง โดนกระทบมาก ที่กระทำไม่เหมาะสม คนไทยรับไม่ได้ ถือเป็นอุทาหรณ์ให้กับแพลตฟอร์มหรือการค้าออนไลน์การโฆษณาต่างๆที่จะต้องมีความระมัดระวัง การกระทำใดที่ผิดศีลธรรม ผิดกฎหมาย ขัดความรู้สึกของคนไทยสังคมจะลงโทษทั้งนั้น”นายชัยวุฒิ กล่าว
วอนอินฟูเอนเซอร์-เอเจนซี่ระวังเนื้อหา
เมื่อถามว่าจะเชิญบริษัทโฆษณา เอเจนซี่มาทำความเข้าใจรูปแบบการนำเสนอหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่าเป็นหน้าที่ของสมาคมโฆษณา ที่มีมาตรฐานวิชาชีพ มีจรรยาบรรณ ที่จะต้องดูแลกันเอง ตนเชื่อว่าเขาได้พูดคุยกันอยู่แล้วในการบังคับใช้ มีจริยธรรมอย่างจริงจังและควรมีบทลงโทษคนที่ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมหรือจรรยาบรรณของสมาคมโฆษณา สื่อโฆษณา ซึ่งตนอยากให้พวกเขากำกับกันเองมากกว่า เพราะหากเราไปใช้อำนาจรัฐ ก็เท่ากับไปแทรกแซงหรือทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ ทางสมาคมจะกำกับดูแลกันเอง ส่วนทางเราก็คอยไปประสานงาน
โดยหลักการวันนี้ ปัญหาใหญ่คือประชาชนจะต้องระมัดระวัง ในการใช้โซเชียลมีเดียในการโพสต์ หรือแชร์รวมถึงบริษัทที่ทำโฆษณาหรือผู้ขายทางออนไลน์ อินลูเอนเซอร์ จะต้องมีจรรยาบรรณถูกกฎหมายและถูกบริบทของสังคมด้วย การทำอะไรขอให้ระมัดระวัง ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก
จ่อใช้พรฎ.กำกับแพลตฟอร์มดิจิทัล
เมื่อถามว่ามีบางฝ่ายเสนอให้รัฐบาลออกกฎหมายการให้บริการดิจิทัล(Digital Services Act-DSA) ที่เหมือนกับกฎหมายของสหภาพยุโรป(อียู)เพื่อใช้มากำกับดูแลแพลตฟอร์มต่างๆ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า กฎหมายที่จะดูแลเรื่องแพลตฟอร์ม เราได้ร่างแล้ว เพื่อให้มีมาตรฐานสากลเหมือนในยุโรป ขณะนี้อยู่ระหว่างคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายกำลังยกร่างซึ่งใกล้เสร็จแล้วจะได้เข้าสู่สภา แต่เรามีพระราชกฤษฎีกา กำกับแพลตฟอร์มดิจิทัลซึ่งได้เสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไปแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างสำนักงานกฤษฎีกากำลังตรวจร่าง ก่อนจะประกาศ ซึ่งจะ มีการบังคับให้แพลตฟอร์มดิจิทัล อีคอมเมิร์ซต่างๆ จะต้องมาจดแจ้งการประกอบการ ต้องมีมาตรการในการควบคุมการใช้งานไม่ให้ผิดกฎหมาย หรือกระทบต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน เพื่อมีมาตรการกำกับดูแล เช่น เขาต้องมีตัวแทนในประเทศไทย มีอัลกอริธึมที่เหมาะสมในการโพสต์หรือแชร์ มีการควบคุมไม่ให้มีปัญหา กำกับดูแลโดยพระราชกฤษฎีกา(พ.ร.ฎ.)กำกับแพลตฟอร์มดิจิทัล จะออกเร็วๆนี้ ซึ่งผ่านที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไปแล้ว กฤษฎีกาตรวจร่างยังไม่เสร็จ จึงยังไม่ได้ประกาศใช้
และเห็นด้วยว่าเราควรจะทำให้เร็ว รัฐบาลให้ความสำคัญพยายามแก้กฎหมาย ปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆตลอดเวลาก็ต้องเร่งให้เร็วที่สุด แต่ต้องมีความรอบคอบ มีการรับฟังความคิดเห็น ตรวจร่างให้ถูกต้อง จึงต้องใช้เวลา
ปิดแพลตฟอร์ม รอศาลสั่ง
“ประเด็นเรื่องการปิดแพลตฟอร์ม เป็นเรื่องที่จะต้องให้ศาลเป็นผู้พิจารณาซึ่งโดยหลักกฏหมายแพลตฟอร์มเป็นตัวกลาง ไม่ใช่คนโพสต์เมื่อแพลตฟอร์มทราบว่า มีคนโพสต์หรือการให้ข้อมูลที่ผิดกฎหมาย หรือทางกระทรวงทิจิทัลแจ้งไป แล้วเขาปิด หรือเทคดาวน์ เขาก็จะไม่มีความผิดเพราะเป็นแค่ตัวกลาง ไม่ใช่คนดำเนินการ แต่ถ้าเขาไม่ปิด ปล่อยให้มีการโพสต์เช่นนั้นต่อไป ก็จะมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด ถือว่าเป็นผู้ร่วมกระทำความผิด ก็จะดำเนินคดีพ่วงกันไปเลยทั้งคนโพสต์และตัวกลาง จึงอยู่ที่ว่าหลังจากนี้เขาทำอย่างไรต่อไปก็ต้องดูที่ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย อยู่ดีๆจะไปปิดเขาเลยไม่ได้ จะต้องใช้กระบวนการทางกฎหมาย ประเทศไทยเรามีสิทธิเสรีภาพให้กับพี่น้องประชาชน การจะไปจำกัดสิทธิ หรือไปลงโทษก็ต้องผ่านกระบวนการทางกฎหมายก่อนคือให้ศาลเป็นคนตัดสินจะไปปิดเลยไม่ได้เพราะกระทบสิทธิของเขา” นายชัยวุฒิ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี