นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์แถลงภายหลังหารือทวิภาคีกับนายเอ็ดเวิร์ด เหยา รมว.พาณิชย์และพัฒนาทางเศรษฐกิจ ฮ่องกง ว่าฮ่องกง ถือเป็นคู่ค้าสำคัญลำดับที่ 12 ของไทยมูลค่าการค้ารวม 4.56 แสนล้านบาท โดยไทยส่งออกไปฮ่องกงปีละประมาณ 3.65 แสนล้านบาท โดยไทยได้ดุลฮ่องกง สินค้าที่ส่งออกไปฮ่องกง เช่น คอมพิวเตอร์อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ แผงวงจรไฟฟ้า อัญมณีและเครื่องประดับ โทรสารโทรศัพท์ ผลไม้สด และผลไม้แช่เย็นและแช่แข็ง เป็นต้น
ประเด็นที่ไทยหารือกับฮ่องกงมี 4 ประเด็น คือประเด็นที่ 1.ขอให้ฮ่องกงช่วยสนับสนุนการส่งออกข้าวพรีเมียม รวมทั้งข้าวหอมมะลิจากประเทศไทยไปฮ่องกงและอาหารพรีเมียม เช่น เนื้อจากพืช(Plant Base Meat) รวมทั้งผลไม้ไทย เช่นทุเรียน ลำไย มะม่วง และผลไม้อื่นๆ เกรดพรีเมียม
ประเด็นที่ 2.ขอให้ฮ่องกงช่วยสนับสนุนธุรกิจภาพยนตร์ของไทย รวมทั้งธุรกิจดิจิทัลคอนเทนท์ด้วย ซึ่งเดือนกรกฎาคมปีนี้ในงานฮ่องกงอินเตอร์เนชันแนลฟิล์มแอนด์ทีวีมาร์เก็ต ที่สมาคมธุรกิจภาพยนตร์ไทย จะได้มีโอกาสทำ MOU กับ TVB ฮ่องกง ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้ไทยสามารถเปิดตลาดภาพยนตร์ไทยในฮ่องกงได้สะดวก กว้างขวางขึ้นรวมทั้งจูงใจให้ธุรกิจภาพยนตร์ในฮ่องกงใช้ประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ต่อไป โดยได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศช่วยดูประเด็น MOU ให้ครอบคลุมรอบด้านที่สุด ถ้าเป็นประโยชน์กับธุรกิจภาพยนตร์ไทยและดิจิทัลคอนเทนท์ของเราให้มากที่สุด รวมทั้งจะเป็นการสนับสนุนส่งเสริมการใช้ Soft Power ผลักดันทั้งภาคการผลิตและบริการของไทยในการเปิดตลาดฮ่องกงในตลาดโลกต่อไป
ประเด็นที่ 3. ไทยขอใช้โอกาสนี้เชิญชวนให้นักลงทุนของฮ่องกงทำธุรกิจ Wellness ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพในประเทศไทยและประเด็นที่ 4.ขอให้ฮ่องกงสนับสนุนการออกแถลงการณ์ร่วมในการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจการค้าเอเปกในครั้งนี้
ต่อไปด้วย
สำหรับประเด็นที่ฮ่องกงหยิบยกมาหารือมี 4 ประเด็นสำคัญคือประเด็นที่ 1. สนับสนุนการประชุมเอเปกครั้งนี้ที่มีไทยเป็นประธานในการประชุมและสนับสนุนที่ไทยทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพการประชุม พร้อมสนับสนุนการออกแถลงการณ์ร่วมและแนวคิดหลักของไทยในเรื่องแนวคิด “Open. Connect. Balance.”
ประเด็นที่ 2. ฮ่องกงมีความประสงค์ขอเข้าร่วมเป็นสมาชิก RCEP (ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership) 15 ประเทศ ที่มีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งเรายินดีให้การสนับสนุนให้ฮ่องกงเข้ามาร่วมซึ่งจะมีส่วนทำให้ RCEP ใหญ่ขึ้นและขนาดเศรษฐกิจขยายตัวออกไปด้วย โดยตั้งแต่ 1 กรกฎาคมปี 2566 เป็นต้นไป RCEP จะเริ่มกระบวนการเปิดรับสมัครสมาชิกใหม่ขอให้ฮ่องกงแจ้งความจำนงตามกระบวนการ
ประเด็นที่ 3. ฮ่องกงแจ้งว่าผู้บริโภคชาวฮ่องกงสนใจสินค้าระดับพรีเมียมเป็นพิเศษ นอกจากข้าวของไทยแล้วยังสนใจอาหารและผลไม้ในระดับพรีเมียม สอดคล้องกับสินค้าของไทยซึ่งได้มีการส่งออกไปยังฮ่องกงรวมทั้งในช่วงถัดจากนี้ฮ่องกงจะช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องระบบการขนส่งที่จะส่งสินค้าพรีเมียมของไทยไปยังฮ่องกงด้วย เพื่อเพิ่มตัวเลขการส่งออกของไทย
และประเด็นที่ 4.ในเรื่องของภาพยนตร์และดิจิทัลคอนเทนต์ทางฮ่องกง แจ้งว่า ยินดีสนับสนุน และธุรกิจภาพยนตร์ฮ่องกงปัจจุบันมีการใช้บริการทั้งใช้ประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ รวมทั้งใช้บริการธุรกิจตัดต่อและอื่นๆสำหรับภาพยนตร์ของฮ่องกง แต่การทำ MOU ที่จะเกิดขึ้นนั้นทางฮ่องกงพร้อมสนับสนุน เพราะจะเป็นการเพิ่มมูลค่าการค้าต่อกันได้มากขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี