นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายให้หน่วยงานภาครัฐเร่งผลิตและพัฒนาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับความต้องการด้านต่างๆ ของประเทศ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอี เพื่อสร้างความเข้มแข็งแก่ภาคธุรกิจระยะยาว
ทั้งนี้ กรมได้จัดทำแผนพัฒนาบุคลากรภายในองค์กรให้มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับความต้องการด้านต่างๆ ของประเทศ แบบ 3 Types for The Success คือ การฝึกปฏิบัติ การศึกษา และการฝึกอบรม ซึ่งเน้นเพิ่มขีดความสามารถ 3 ด้าน ได้แก่ ทักษะเฉพาะด้านตามกลุ่มงาน/สายงานความสัมพันธ์ส่วนบุคคล และสติปัญญา ทั้ง 3 ส่วนจะช่วยเติมเต็มจุดอ่อนและเสริมจุดแข็งให้บุคลากรแบบครบวงจร รวมถึงปรับเปลี่ยนบริบทการทำงาน จากการตั้งรับเป็นเดินหน้ารุก เพื่อให้ทันต่อความต้องการของภาคธุรกิจและประชาชน ช่วยให้เกิดความกระตือรือร้น กล้ารับ กล้าคิด กล้าที่จะนำการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับทุกการทำงาน โดยหวัง
ผลสัมฤทธิ์สูงสุดของงานเป็นที่ตั้ง
โดยกรมได้วางนโยบายพัฒนาให้ข้าราชการสวมหมวกการทำงาน 2 ใบ เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่ดี มีความพึงพอใจสูงสุด และภาคธุรกิจโดยเฉพาะเอสเอ็มอีและไมโครเอสเอ็มอีเติบโตอย่างสมดุลและเข้มแข็ง ซึ่งหมวกใบที่ 1 เป็นการให้บริการประชาชนตามภารกิจกรมฯด้วยความเต็มที่และเต็มใจ หมวกใบที่ 2 เป็นที่ปรึกษาภาคธุรกิจ โดยปัญหาสำคัญของเอสเอ็มอีและไมโครเอสเอ็มอี คือการขาดที่ปรึกษาทางธุรกิจที่ดี กรมฯจึงต้องพัฒนาบุคลากรให้สามารถเป็นที่ปรึกษาแก่ภาคธุรกิจ ช่วยวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานในการประกอบธุรกิจ โดยใช้คลังข้อมูลธุรกิจ (DBD Data Warehouse+) ของกรมฯ ซึ่งเป็นบิ๊กดาต้าธุรกิจขนาดใหญ่เข้ามาเป็นเครื่องมือช่วยผลักดันให้ภาคธุรกิจประสบความสำเร็จ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี