รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงานกกพ.) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2565 นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการ กกพ.ได้ลงนามประกาศเปลี่ยนแปลงกรอบระยะเวลาลงนามซื้อขายไฟฟ้าโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) ออกไปเป็นครั้งที่ 4 ตามที่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือ PEA เสนอ โดยให้เลื่อนออกไปอีก 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค. 2565
“บอร์ด กกพ. ได้มีการพิจารณาเห็นชอบและสำนักงาน กกพ. ได้ลงนามประกาศเปลี่ยนแปลงตามการพิจารณาของบอร์ดในการเลื่อนกรอบระยะเวลาลงนามออกไปอีกเป็นครั้งที่ 4 โดยจะไปสิ้นสุดในวันที่30 กันยายน 2565 ทั้งนี้เนื่องจากยังต้องรอผลการสอบสวนข้อร้องเรียนฮั้วประมูลจาก สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.)” แหล่งข่าวกล่าว
สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง)ที่รับซื้อไฟฟ้าไม่เกิน 150 เมกะวัตต์ (ชีวมวล 75 เมกะวัตต์ และก๊าซชีวภาพ 75 เมกะวัตต์) ทาง กกพ.ได้ประกาศเมื่อ 23 ก.ย. 2564 มีผู้ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 43 ราย คิดเป็นปริมาณพลังไฟฟ้าเสนอขายรวม 149.50 เมกะวัตต์ (ค่าไฟฟ้าเสนอขายเฉลี่ย 3.1831 บาทต่อหน่วย)แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าชุมชนประเภทชีวมวลจำนวน 16 ราย ปริมาณพลังไฟฟ้าเสนอขายรวม 75.00 เมกะวัตต์(ค่าไฟฟ้าเสนอขายเฉลี่ย 2.7972 บาทต่อหน่วย) และโรงไฟฟ้าชุมชนประเภทก๊าซชีวภาพรวม 27 ราย ปริมาณพลังไฟฟ้าเสนอขายรวม 74.50 เมกะวัตต์(ค่าไฟฟ้าเสนอขายเฉลี่ย 3.5717 บาทต่อหน่วย)
ทั้งนี้โครงการดังกล่าวยังไม่สามารถลงนามซื้อขายไฟฟ้าได้หลังจากที่มีผู้ไปยื่นเรื่องกับสำนักงานป.ป.ช. ระบุว่าเข้าข่ายการกระทำผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานภาครัฐ พ.ศ.2542 ซึ่งต่อมาสำนักงานป.ป.ช.ได้รับข้อกล่าวหา เมื่อ 5 ต.ค.
2564 จึงทำให้กกพ.ได้มีการเลื่อนการลงนามครั้งแรกออกไป 30 วันหรือภายในวันที่ 20 ก.พ. 2565 และต่อมาได้มีการเลื่อนการพิจารณาลงนามครั้งที่ 2 อีก 60 วัน จากวันที่ 20 ก.พ. 2565 เป็นภายในวันที่21 เม.ย. จากนั้นสำนักงาน ป.ป.ช.เองได้ขอขยายเวลาการพิจารณาออกไปอีก 90 วัน ทำให้ กฟภ. จึงขอให้ทางสำนักงาน กกพ.เลื่อนการลงนามครั้งที่ 3 ออกไปจนถึงวันที่ 2 ก.ค. 2565 และล่าสุดเลื่อนไปอีก 90 วันรวมเป็นเลื่อน 4 ครั้ง รวมระยะเวลาการเลื่อนลงนามนาม 252 วัน
นายจำเนียร นนทะวงษ์ ประธานชมรมวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตไฟจากหญ้าเนเปียร์และประธานกลุ่มวิสาหกิจเศรษฐกิจแนวคิดใหม่ในอาเซียน อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า เร็วๆ นี้ กลุ่มวิสาหกิจฯจะหารือกับสมาชิกเพื่อแก้ไขปัญหาหลังจากที่รัฐเลื่อนการลงนามฯซื้อขายไฟฟ้าจนทำให้โรงไฟฟ้าชุมชนไม่อาจเดินหน้าได้ส่งผลต่อเกษตรกรผู้ปลูกหญ้าเนเปียร์เพราะคาดหวังจากนโยบายรัฐในการที่จะร่วมมือกับโรงไฟฟ้าชุมชนในการร่วมทุนและโดยการรับจำหน่ายหญ้าเนเปียร์เพื่อเป็นเชื้อเพลิง
“รัฐมาให้ความหวัง และเราก็รวมตัวกันเพื่อที่จะจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนที่ต้องมีสมาชิกไม่น้อยกว่า 200 ครัวเรือนและหลายรายได้มีการเพาะปลูกหญ้าเนเปียร์ไว้แล้วเพื่อรองรับโรงไฟฟ้าพอเลื่อนมากๆ เข้าทุกอย่างก็สะดุดแล้วหญ้าก็โตขึ้นแม้ส่วนหนึ่งจะไปเลี้ยงวัวแต่ก็ยังมีส่วนที่เหลืออีกจะทำอย่างไร ผมในฐานะผู้นำก็ลำบากถ้านโยบายรัฐเป็นเช่นนี้ ดังนั้นหากเห็นว่าต้องยกเลิกก็ขอให้ตัดสินใจเลยจะดีกว่า เกษตรกรจะได้มีเป้าหมายชัดเจนว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปไม่ใช่คาราคาซังเช่นนี้”นายจำเนียร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี