“ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของประเทศไทย และขนาดประชากรของครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจนของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ทั้งในและนอกระบบการศึกษา มีอยู่มากกว่า 2 ล้านคน และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอด 2 ปีที่ผ่านมา จากผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการระบาดของโรคโควิด-19 อีกทั้งช่วงชั้นรอยต่อระหว่างปีการศึกษาในช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกๆ ปี คือช่วงเวลาสำคัญที่จะกำหนดชะตาชีวิตการเรียนต่อของนักเรียนในครัวเรือนที่มีรายได้น้อย
ซึ่งก่อนปิดภาคเรียนที่ผ่านมา กสศ. สำรวจพบว่า มีนักเรียนในครัวเรือนยากจนพิเศษช่วงชั้นรอยต่อจำนวนราว 60,000 คน ที่มีความเสี่ยงหลุดออกจากระบบ ซึ่งการหลุดออกจากระบบการศึกษาก่อนวัยอันควรจะทำให้พวกเขาติดอยู่ในกับดักความยากจน และมีโอกาสสูงมากที่ความยากจนจากรุ่นพ่อแม่จะถูกส่งต่อไปยังรุ่นสู่รุ่น ซึ่งเราเรียกปรากฎการณ์นี้ว่า ปัญหาความยากจนข้ามชั่วคน (Intergenerational Poverty) ที่อยู่คู่กับสังคมไทยมายาวนาน”
ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวในพิธีแสดงเจตนารมณ์ “โครงการลมหายใจเพื่อน้อง” เพื่อคืนโอกาสให้แก่เด็กนักเรียนและเยาวชนในช่วงชั้นรอยต่อ ที่มีความเสี่ยงหลุดออกจากระบบการศึกษาในปี 2565 ให้สามารถกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยโครงการดังกล่าว เป็นความร่วมมือระหว่าง กสศ. กับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
ย้อนไปในปี 2563 - 2564 ที่สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ยังรุนแรง ปตท. ได้จัดตั้ง “โครงการลมหายใจเดียวกัน” สนับสนุนเครื่องมือแพทย์ให้กับโรงพยาบาล ระดมทีมผู้เชี่ยวชาญแต่ละด้านของบริษัทในเครือมาพัฒนานวัตกรรมสำหรับการดูแลผู้ป่วย การตั้งหน่วยคัดกรองและโรงพยาบาลสนามครบวงจร (End-to-End) ไปจนถึงสนับสนุนกรุงเทพมหานคร (กทม.) ด้านระบบสารสนเทศในการจัดตั้งจุดฉีดวัคซีน
และในปี 2565 เมื่อสถานการณ์โรคระบาดเริ่มทุเลาเบาบางลง กิจการต่างๆ เริ่มกลับมาเปิดทำการ รวมถึงสถานศึกษาต่างๆ ก็เริ่มกลับมาทำการเรียนการสอนแบบออนไซต์ (Onsite) ปตท. ได้เล็งเห็นว่า การช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่หลุดออกจากระบบการศึกษาให้กลับมาเรียนได้อีกครั้ง ก็มีความจำเป็นไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน จึงเป็นที่มาของโครงการลมหายใจเพื่อน้อง ชวนผู้รักการออกกำลังกายมาเดิน-วิ่ง ในกิจกรรม “PTT Virtual Run”
ซึ่งในเฟสที่ 1 ที่เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2565 ได้สร้างปรากฏการณ์อันน่าทึ่งกับการช่วยกันสะสมระยะทางได้ถึง 6 แสนกิโลเมตร ภายในระยะเวลาเพียง 6 วัน ระดมทุนไปได้ 151 ล้านบาท สามารถนำพาเด็กและเยาวชนราว 6 หมื่นคน ให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาอีกครั้ง ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยในวันที่ 8 มิถุนายน 2565 ปตท. ได้จัดพิธีมอบเงินจำนวนดังกล่าวให้กับ กสศ. โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี
ขณะเดียวกัน ปตท. ยังดำเนินโครงการลมหายใจเพื่อน้องต่อเนื่องในเฟสที่ 2 ผ่านกิจกรรม PTT Virtual Run “เดิน-วิ่ง 20 ล้านก้าวก๊อดจิ” จนถึงวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยการเดิน-วิ่งทุกๆ 1 กิโลเมตร จะเท่ากับ 3 ก้าวก๊อดจิ ซึ่งในเฟส 2 นี้เป้าหมายเพื่อจัดตั้ง “กองทุนแรกเริ่มศูนย์ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนในวิกฤตการศึกษา” ร่วมกับ กสศ. สำหรับดูแลเด็กและเยาวชนที่ได้รับผลกระทบจากหตุปัจจัยไม่คาดคิด อาทิ อุบัติเหตุ อาชญากรรมต่างๆ ทั้งต่อครอบครัว และตัวเยาวชน ที่ทำให้มีความเสี่ยงหลุดออกจากระบบการศึกษา
กิจกรรม PTT Virtual Run ภายใต้โครงการลมหายใจเพื่อน้อง ได้รับความสนใจ มีประชาชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีบุคคลผู้ชื่อเสียง รวมถึง “ท่านผู้ว่าฯ สุดแกร่ง” นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ร่วมวิ่งด้วย จนกระทั่งประกาศความสำเร็จ รวมพลังคนไทย เดิน-วิ่งต่อลมหายใจเพื่อน้องกว่า 60,000 คนกลับสู่ระบบการศึกษา พร้อมจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือเยาวชนในภาวะวิกฤตการศึกษา รวมงบสนับสนุน 171 ล้านบาท
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กิจกรรม PTT Virtual Run ภายใต้โครงการลมหายใจเพื่อน้อง ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม - 30 มิถุนายน 2565 ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง โดยได้รับความสนใจจากประชาชนทุกภาคส่วนทั่วประเทศ ที่มีความห่วงใยต่อเยาวชน จึงเข้าร่วมกิจกรรมกับ ปตท. เดิน-วิ่งสะสมระยะทางเพื่อแปลงเป็นทุนการศึกษา จำนวน 151 ล้านบาท สามารถช่วยเด็กและเยาวชนให้มีโอกาสได้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาได้กว่า 60,000 คน อีกทั้งยังได้ร่วมกันจัดตั้งกองทุนแรกเริ่มช่วยเหลือเด็กและเยาวชนในวิกฤตการศึกษา ผ่าน กสศ. อีก 20 ล้านบาทด้วย
“ขอขอบคุณทุกพลังของคนไทย ที่เข้ามาร่วมกิจกรรมเดิน-วิ่ง กันอย่างคับคั่ง เกิดการสร้างสถิติใหม่ สะสมระยะทางแปลงเป็นทุนการศึกษา 600,000 กิโลเมตร ในเวลาเพียง 6 วัน และยังสามารถวิ่งสะสมระยะทางครบ 20 ล้านก้าวก๊อดจิ เพื่อจัดตั้งกองทุนฯ ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนตามเป้าหมายของโครงการ โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น รวม 93,061 คน เป็นระยะทางเดิน-วิ่งสะสม 7,425,061 กิโลเมตร การรวมพลังของคนไทยในโอกาสนี้ สามารถช่วยเด็กและเยาวชนไทยให้ได้รับการศึกษาต่อเนื่อง เป็นงบประมาณ 171 ล้านบาท” นายอรรถพล กล่าว
อนึ่ง ปตท. ได้ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนด้านการศึกษามาอย่างต่อเนื่องด้วยเชื่อว่า การศึกษาคือหนึ่งในรากฐานสำคัญที่จะนำพาประเทศไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน จึงได้จัดตั้งสถาบันวิทยสิริเมธี และ โรงเรียนกำเนิดวิทย์ เพื่อส่งเสริมเยาวชนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงมีโรงเรียนภายใต้ PTT Group School Model ที่สนับสนุนโดยกลุ่ม ปตท. อีกกว่า 200 แห่ง
ซึ่งการได้รับโอกาสและสามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ จะทำให้เด็กและเยาวชนเติบโตเป็นกำลังสำคัญที่จะร่วมพัฒนาประเทศต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี