‘บอร์ด ปตท.’อนุมัติ 3,000 ล้านบาท เข้ากองทุนน้ำมัน หวังแบ่งเบาภาระปชช.
12 กรกฎาคม 2565 นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ที่ผ่านมา คณะกรรมการ ปตท. มีมติอนุมัติสนับสนุนเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นกรณีพิเศษเพื่อช่วยเหลือประชาชนเป็นการเร่งด่วนจากสถานการณ์วิกฤต เป็นจำนวนเงินเดือนละ 1,000 ล้านบาท ระยะเวลา 3 เดือน รวมทั้งสิ้น 3,000 ล้านบาท สนับสนุนภาครัฐในการแบ่งเบาภาระค่าพลังงานของประชาชน รวมทั้งเพื่อรักษาเสถียรภาพด้านพลังงานของประเทศ ทั้งนี้ จากสถานการณ์วิกฤตด้านพลังงานตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา ปตท. ได้ช่วยแบ่งเบาภาระต้นทุนค่าครองชีพด้านพลังงานให้แก่ประชาชนไปแล้วกว่า 14,800 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปตท. ในฐานะบริษัทมหาชนและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจตระหนักถึงผลกระทบจากวิกฤตการณ์ด้านพลังงาน ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจและภาคประชาชนของประเทศในวงกว้าง จึงได้ช่วยเหลือประชาชนทุกภาคส่วนโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง อาทิ ให้ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม (LPG) แก่ผู้มีรายได้น้อยที่เป็นร้านค้าหาบเร่ แผงลอยอาหาร ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การตรึงราคาขายปลีกช่วยเหลือกลุ่มผู้ใช้รถ NGV ส่วนบุคคล และผู้ประกอบอาชีพขับขี่รถแท็กซี่ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตรึงราคาขายปลีกน้ำมันหน้าสถานีบริการ จัดหาน้ำมันดิบเพื่อเพิ่มปริมาณสำรอง ตลอดจนช่วยบรรเทาภาระต้นทุนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในการผลิตไฟฟ้า นอกจากนี้ ปตท. ยังได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายทางการแพทย์เพื่อช่วยเหลือสังคมจากวิกฤตโควิดในโครงการลมหายใจเดียวกันกว่า 1,046 ล้านบาท
“ปตท. พร้อมเป็นกำลังสำคัญและเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการทำงานของทุกภาคส่วน รวมถึงการดูแลสังคมและชุมชน เพื่อให้คนไทยฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกันได้โดยเร็ว” นายอรรถพล กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี