ธุรกิจ Nursing Home เป็นบริการสำหรับผู้สูงอายุ/ผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องการการดูแลที่อาจยังเติบโตได้ ภายใต้ปัจจัยกดดันกำลังซื้อจากภาวะค่าครองชีพสูงและความไม่แน่นอนของสถานการณ์โควิด-19
ดังนั้นศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงคาดว่ามูลค่าการใช้จ่ายของผู้ใช้บริการ Nursing Home ปี 2565 จะอยู่ที่ 12,700 ล้านบาท ขยายตัว 3.5% จากปีก่อน เป็นผลหลักจากปัจจัยด้านราคาซึ่งได้รับผลกระทบจากต้นทุนการดำเนินธุรกิจที่ปรับตัวสูงขึ้นในระยะนี้โดยกลุ่มผู้ใช้บริการหลักเป็นผู้สูงอายุ/ผู้ป่วยชาวไทยที่ต้องการการดูแลระยะยาวและมีกำลังซื้อเพียงพอขณะที่คนไข้ต่างชาติยังมีสัดส่วนน้อยแต่คาดว่าจะฟื้นตัวได้ตามนโยบายการเปิดประเทศ
ปัจจุบันคาดว่าธุรกิจ Nursing Homeมีจำนวนไม่น้อยกว่า 2,000 ราย และมากกว่า95% เป็นธุรกิจขนาดเล็กโดยผู้ประกอบการแต่ละแห่งอาจให้บริการ ทั้งการดูแลที่ศูนย์พักและส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลที่บ้าน เลือกได้ทั้งบริการระยะสั้น (รายวัน/รายชั่วโมง)และระยะยาว (ตั้งแต่ 3-6 เดือนขึ้นไป)ด้วยข้อจำกัดด้านกำลังซื้อทำให้ปัจจุบัน Nursing Home ส่วนใหญ่ยังกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ และพื้นที่ใกล้เคียง เช่น นนทบุรีสมุทรปราการ พระนครศรีอยุธยา รวมไปถึงเมืองท่องเที่ยวเช่น เชียงใหม่ ภูเก็ตสุราษฎร์ธานีที่รองรับกลุ่มคนไข้ต่างชาติบางส่วน
ระยะข้างหน้า ธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตได้จากโอกาสทางธุรกิจที่จะดึงดูดการลงทุนของผู้ประกอบการและปัจจัยหนุนจากจำนวนผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นแต่ธุรกิจจะแข่งขันรุนแรงเพื่อเข้าถึงลูกค้าศักยภาพซึ่งยังมีจำกัด
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงมองว่าการขยายธุรกิจอาจเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงของผู้เล่นรายเดิมและรายใหม่เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพซึ่งยังมีจำกัด ดังนั้นคุณภาพการบริการที่ได้มาตรฐานโดยบุคลากรที่น่าเชื่อถือและมีความเชี่ยวชาญ ควบคู่ไปกับการตอบโจทย์เรื่องทำเลที่ตั้ง ความสะดวกในการเดินทาง บนราคาค่าใช้บริการที่เหมาะสม จะเป็นปัจจัยความสำเร็จของธุรกิจในระยะยาว