นายกฯขับเคลื่อนอีอีซี มุ่งพัฒนาเกษตรกรรมขนานนวัตกรรม แบ่งพื้นที่ 5 คลัสเตอร์ เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์เกษตร เชื่อมโยงโลจิสติกส์ สร้างจุดแข็งนำร่อง ครม.ไฟเขียว‘เมืองการบิน’ภาคตะวันออก
เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 9 สิงหาคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงหลังเป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เรื่องสำคัญที่เข้าพิจาณาใน ครม.วันนี้ เป็นการเตรียมการขับเคลื่อนประเทศในอนาคตคือการจัดทำแผนปฏิบัติการพัฒนาเกษตรในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ปี 2566-2570 ถึงแม้เราจะมีการพัฒนาอีอีซี เราไม่ได้คำนึงถึงการส่งเสริมอุตสาหกรรมแห่งอนาคตเท่านั้น เราจำเป็นต้องยกระดับภาคเกษตรกรรมของเราด้วยเทคโนโลยี และนวัตกรรมสมัยใหม่คู่ขนานกันไปด้วย เพราะประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม คนไทยเราเก่งมีการทำเกษตรกรรมอยู่ในสายเลือด เราต้องพัฒนาต่อยอดให้เป็นสมาร์ท ฟาร์มเมอร์ให้ได้ เพื่อเพิ่มมูลค่า ราคา และได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ ฉะนั้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ภาคการเกษตร เราต้องเน้นการสร้างบรรยากาศเข้าสู่ธุรกิจการเกษตรสมัยใหม่ โดยเเผนปฏิบัติการนี้จะเป็นเป้าหมายรวมยกระดับรายได้เกษตรกร และมูลค่าผลิตภัณฑ์ของมวลรวมในสาขาเกษตรเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ เราแบ่งพื้นที่การพัฒนาในพื้นที่อีอีซีเป็น 5 คลัสเตอร์
1.คลัสเตอร์ผลไม้ เน้นพัฒนาคุณภาพสินค้าสู่ตลาดสินค้าคุณภาพสูง เช่น ทุเรียน มังคุด มะม่วง ในพื้นที่ จ.ระยอง และฉะเชิงเทรา
2.คลัสเตอร์ประมง การเพาะเลี้ยงที่เน้นเพิ่มมูลค่าห่วงโซ่อุปทานด้วยเทคโนโลยีการผลิต และสร้างเศรษฐกิจใหม่ เช่น กุ้งก้ามกราม กุ้งขาว ปลานิล ในพื้นที่ จ.ระยอง และฉะเชิงเทรา
3.คลัสเตอร์พืชสำหรับอุตสาหกรรมชีวภาพ เน้นยกระดับผลผลิตมันสำปะหลังให้มีคุณภาพ และปริมาณให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด และส่งเสริมการแปรรูปด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ใน จ.ชลบุรี
4.คลัสเตอร์พืชสมุนไพร เน้นการพัฒนาสมุนไพรอย่างครบวงจร เช่น ฟ้าทะลายโจร กะชาย กัญชง กัญชา ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา และชลบุรี
5. คลัสเตอร์เกษตรมูลค่าสูง พัฒนาสินค้าเกษตรสู่ตลาดคุณภาพสูง ได้แก่ เนื้อโคพรีเมียมคุณภาพสูง ไข่ไก่อินทรีย์ จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง
“จุดแข็งของการปรับโครงสร้างการเกษตรในพื้นที่อีอีซี เราต้องสามารถสร้างการเชื่อมโยงกับภาคเศรษฐกิจอื่นๆ และภาคโลจิสติกส์ ที่มีความพร้อมสูง ทั้งทางบก ราง ทะเล และทางอากาศ เพื่อเป็นต้นแบบการพัฒนาเกษตรในภูมิภาคอื่นๆของไทย ซึ่งรัฐบาลมีแนวคิดที่จะส่งเสริมพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษอีก 10 แห่งในอนาคตแล้วด้วย” นายกฯกล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ครม.เห็นชอบ EECa (อีอีซีเอ) หรือเมืองการบินภาคตะวันออก ให้กำหนดเป็นพื้นที่เมืองการบิน หรือ แอร์พอร์ตซิตี้ จำนวน1,032 ไร่ ในเขตอีอีซีเอ ที่เป็นเขตประกอบการเสรี โดยในพื้นที่จะมีกิจกรรมและสันทนาการเพื่อรองรับการใช้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เช่น โรงแรม 5 ดาว ห้างสรรพสินค้าดิวตี้ฟรี ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ งานแสดงสินค้าเพื่อจัดการประชุม และความบันเทิงหลายรูปแบบ เพื่อดึงดูดการใช้จ่ายจากผู้เยี่ยมชมเฉพาะกลุ่ม เช่น กลุ่มผู้เดินทางพักเครื่อง กลุ่มนักธุรกิจรายใหญ่ และกลุ่มผู้อาศัยในเมืองการบิน โดยจะต้องมีเงื่อนไขพิเศษเพื่อกำหนดความคล่องตัวในการรองรับเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นมหาศาล เช่น สิทธิประโยชน์ ภาษีมูลค่าเพิ่ม การขอวีซ่า
“ผมคิดว่าอันนี้เป็นเรื่องของปัจจุบันและอนาคตอันใกล้ หวังว่าอีอีซีนั้นจะเป็นพื้นที่สำคัญในการสร้างรายได้ให้กับประเทศในอนาคต เป็นรากฐานการพัฒนาความเจริญแบบก้าวกระโดดภายในเวลาไม่เกิน 10 ปีนี้ และสร้างชื่อเสียงประเทศไทย ทั้งด้านการเกษตร อุตสาหกรรมสมัยใหม่ การคมนาคมขนส่ง นวัตกรรม วิจัย เทคโนโลยีบีซีจี เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในการด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งประเทศไทยและโลกนี้ด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี