ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ (REPORTON BUSINESS SENTIMENT INDEX)เดือนสิงหาคม 2565 ดัชนีความเชื่อมั่นทรงตัวอยู่ที่ 49.6 ใกล้เคียงกับเดือนก่อน โดยความเชื่อมั่นด้านต้นทุนปรับดีขึ้นมากแม้จะยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ความเชื่อมั่นด้านคำสั่งซื้อการลงทุนและการจ้างงานปรับลดลงเล็กน้อย สำหรับดัชนีฯ ภาคการผลิตยังอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 แต่ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากกลุ่มผลิตเหล็ก รวมถึงกลุ่มผลิตเคมี ปิโตรเลียม ยางและพลาสติกเป็นสำคัญ เนื่องจากความกังวลด้านต้นทุนลดลงตามราคาเหล็กและราคาน้ำมันในตลาดโลกที่มีแนวโน้มลดลง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นด้านค่าสั่งซื้อ การผลิต และผลประกอบการปรับเพิ่มขึ้นมาก สำหรับภาคที่มิใช่การผลิต ดัชนีฯทรงตัวเหนือระดับ 50 โดยความเชื่อมั่นในเกือบทุกหมวดธุรกิจปรับลดลง ยกเว้นความเชื่อมั่นของธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารที่ปรับดีขึ้นมาก ตามบรรยากาศการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นและมาตรการเราเที่ยวด้วยกัน

ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ดัชนีฯ ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 54.0 จาก 52.1 ในเดือนก่อนจากเกือบทุกองค์ประกอบที่ปรับดีขึ้นแม้ว่าความเชื่อมั่นด้านต้นทุนยังอยู่ในระดับต่ำมากโดยความเชื่อมั่นในอีก 3 เดือนข้างหน้าของเกือบทุกหมวดธุรกิจปรับดีขึ้นเมื่อเทียบกับปัจจุบัน สะท้อนจากดัชนีฯ ที่เพิ่มขึ้นมาอยู่เหนือหรือใกล้เคียงระดับ 50 โดยเฉพาะธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ที่ดัชนีฯปรับเพิ่มขึ้นมาสูงกว่าระดับ 50 ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 6 และ 20 เดือนตามลำดับจากความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นในทุกองคประกอบสอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวมยกเว้นด้านต้นทุนที่ยังอยู่ในระดับต่ำดัชนีความเชื่อมั่นด้านอื่นๆ เช่น ดัชนีความเชื่อมั่นด้านต้นทุนยังอยู่ในระดับต่ำแต่ปรับดีขึ้นมาก

ตามราคาปัจจัยการผลิตหลายรายการที่มีแนวโน้มลดลง อย่างไรก็ตาม กำลังซื้อที่ยังฟื้นตัวไม่เข้มแข็งกดดันให้ความเชื่อมั่นด้านสภาพคล่องของธุรกิจยังอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 อย่างต่อเนื่องต้นทุนการผลิตสูงยังคงเป็นอุปสรรคอันดับแรกในการดำเนินธุรกิจแต่สัดส่วนของผู้ประกอบการที่กังวลด้านต้นทุนเริ่มลดลง ขณะที่สัดส่วนของผู้ที่กังวลต่อกำลังซื้อในประเทศปรับเพิ่มขึ้นในเดือนนี้ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในอีก 12 เดือนข้างหน้าปรับลดลงเป็นครั้งแรกในรอบปี จาก 4.8% ในเดือนก่อน มาอยู่ที่ 4.5% ในเดือนนี้