นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG เปิดเผยถึงความคืบหน้าแผนการเสนอขายหุ้น IPO และการนำหุ้น BTG เข้าจดทะเบียนซื้อ-ขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ว่า BTG ได้กำหนดราคาเสนอขายที่ 40 บาทต่อหุ้น ปัจจุบันมีนักลงทุนสถาบันชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้าลงนามในสัญญาลงทุนในหุ้น BTG เพื่อเป็น Cornerstone Investors ทั้งหมด 25 ราย คิดเป็นมูลค่าประมาณ 7,286 ล้านบาท หรือคิดเป็น 77.1%
โดยการระดมทุนครั้งนี้จะเป็นการสร้างโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน รวมถึงจะเป็นการสร้างฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และมีความพร้อมขยายธุรกิจในทุกๆด้าน เพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขันในอนาคต สำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญของ BTG ในครั้งนี้ จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนที่เป็นลูกค้าของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์สามารถจองซื้อหุ้น ในระหว่างวันที่ 10-12 และ 17 ตุลาคม 2565 และคาดเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) เป็นวันแรก ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 โดยปัจจุบันแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และหนังสือชี้ชวน (แบบไฟลิ่ง) ได้รับการอนุมัติจาก สำนักงาน ก.ล.ต. และมีผลบังคับเรียบร้อยแล้ว
“เบทาโกรเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า เบทาโกรมีความแตกต่างและโดดเด่นจากบริษัทจดทะเบียนรายอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน พร้อมด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และมีศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเงินที่ได้รับจากการระดมทุนในครั้งนี้ มีแผนที่จะนำเงินไปลงทุนเพื่อการเข้าซื้อ และหรือก่อสร้างฟาร์มและโรงงานแห่งใหม่ประมาณ 8,000 ล้านบาท การปรับโครงสร้างเงินทุนผ่านการชำระหนี้สินระยะสั้นและหรือระยะยาวให้แก่สถาบันการเงินประมาณ 8,960-10,500 ล้านบาท และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินงาน ไม่เกิน 1,021 ล้านบาท” นายวสิษฐ กล่าว
ส่วนกลยุทธ์การสร้างการเติบโตในอนาคตนั้น มีแผนสร้างศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยแผนการขยายกำลังการผลิตตลอดห่วงโซ่คุณค่า การสร้างความแข็งแกร่งให้กับช่องทางการจัดจำหน่าย โดยเฉพาะช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีมูลค่าสูง การมุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง
สำหรับศักยภาพการเติบโตในตลาดต่างประเทศ บริษัทมีแผนเพิ่มกำลังการผลิตในกัมพูชาและลาว การลงทุนในฟาร์มและโรงงานในเมียนมา การเพิ่มจุดหมายการส่งออกและเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายในตลาดต่างประเทศที่สำคัญ เช่น สิงคโปร์ และฮ่องกง เป็นต้น
นายวสิษฐกล่าวว่า ผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา BTG สามารถสร้างการเติบโตของรายได้คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยประมาณ 7.3% ต่อปี โดยในช่วง 6 เดือนแรกปี 2565 มีรายได้รวม 54,193.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้ส่วนใหญ่จากกลุ่มธุรกิจอาหารและโปรตีน คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 68% ของรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการ ส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจเกษตร 25% กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ 5% และกลุ่มธุรกิจสัตว์เลี้ยง 2% ของรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการรวมถึงสามารถสร้างกำไรสุทธิ 3,892.5 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 7.2%
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี