นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงานกล่าวในงานเสวนาหาทางออก ฝ่าวิกฤต “พลังงานโลก” ทางรอด “พลังงานไทย” จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ว่าต้องย้ำอีกครั้งว่า ประเทศไทย ผลิตน้ำมันใช้เอง ได้เพียง 8% ที่เหลือ 92% ต้องพึ่งการนำเข้า ซึ่งจากวิกฤตราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้น ตั้งแต่มีนาคม 2563 จนถึงเดือนกันยายน 2565 ทำให้รัฐ ต้องใช้งบประมาณช่วยเหลือไปแล้วรวมกว่า 242,000 ล้านบาทและยังคาดการณ์ว่า ในปี 2566 ราคาน้ำมันดิบ น่าจะยังทะลุ 100-110 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งราคานี้จะทำให้รัฐ ต้องอุดหนุน อาทิ ดีเซล อยู่ประมาณ 5-6 บาทต่อลิตร และปัจจุบัน กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงยังติดลบอยู่กว่า 120,000 ล้านบาท ที่กำลังอยู่ในกระบวนการกู้เพื่อนำมาจ่ายคืนผู้ค้าน้ำมัน และเสริมสภาพคล่องกองทุน เบื้องต้นจะกู้เต็มวงเงิน มาใช้คืนให้แล้วเสร็จครบแต่ละงวด ภายในเดือนตุลาคม 2566
นอกจากนี้ราคาก๊าซธรรมชาติ LNG ในปีหน้าคาดว่า จะเฉลี่ยที่ 39 ดอลลาร์สหรัฐต่อ MMBtu(เอ็ม-เอ็ม-บี-ที-ยู) ซึ่งมีสัดส่วนการนำเข้าประมาณ38% ในจำนวนนี้ถึง 70% นำไปใช้ในการผลิตไฟฟ้าซึ่งสถานการณ์ความขัดแย้ง ที่ยังมีแนวโน้มยืดเยื้อ จึงมีการคาดการณ์กันว่า ราคา LNG จะขยับไปสูงถึง50-55 ดอลลาร์สหรัฐต่อ MMBtu จึงต้องเตรียมแผนเพื่อป้องกันไม่ให้ค่าไฟฟ้า สูงขึ้นกว่าในปัจจุบัน ที่ค่า FT อยู่ที่หน่วยละ 4.72 บาท เพราะจากการคำนวณ หากราคาสูงขึ้นไปถึงระดับดังกล่าวจริง จะมีผลให้ค่า FT ขยับขึ้นเป็นหน่วยละ 7 บาทได้
“การผลิตไฟฟ้ายังต้องรองรับการใช้ไฟฟ้าของรถยนต์ อีวี ที่กำลังส่งเสริมเพื่อลดการใช้น้ำมัน โดยมีแผนทั้งการกลับมาเดินเครื่องโรงไฟฟ้าแม่เมาะเดิม 1 โรง ภายในปีนี้ เพิ่มกำลังการผลิตได้อีก 200 เมกะวัตต์ และเพิ่มการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานน้ำจาก สปป.ลาว เพื่อตรึงค่าไฟฟ้าให้นานที่สุด รวมทั้งในระยะยาว จะต้องสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคครัวเรือนให้ขยายไปยังสถานประกอบการ ที่จะมีผลต่อการลดใช้ไฟฟ้าได้ชัดเจน รวมทั้งการพัฒนาโครงการพื้นฐานทางพลังงานทั้งการขาย และรับซื้อจากโรงงานและครัวเรือน รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในระบบบริหารจัดการ”
นางสาวสมฤดี พู่พรอเนก รองอธิบดีกรมยุโรป กระทรวงการต่างประเทศ ย้ำถึงสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ที่กินเวลายาวนานมาแล้วกว่า 8 เดือน และยังมีแนวโน้มยืดเยื้อนั้น น่าเป็นห่วง เพราะรัสเซีย ถือเป็นผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติอันดับ 1 ของโลก และส่งออกน้ำมันอันดับ 2 ของโลก จึงกระทบต่อราคาพลังงานทั่วโลก
แต่พลังงานมีส่วนสำคัญและมีความต้องการเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวหลังสถานการณ์โควิด-19 ดังนั้นควรใช้บทเรียนสำคัญ ของสหภาพยุโรป ที่พึ่งพาพลังงานจากรัสเซียจำนวนมาก ทำให้ได้รับผลกระทบโดยตรง สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาที่สำคัญ ได้ปรับแผนการแสวงหาพลังงานทางเลือกใหม่ๆ มากขึ้น ที่นอกจากจะลดการพึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่งแล้วยังเป็นการเพิ่มการใช้พลังงานสะอาดด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี