nn ประเทศไทย...พูดถึงและตั้งเป้าหมายเรื่องการเติบโตอย่างยั่งยืนมานานมากแล้ว และหลายรัฐบาลก็พยายามบอกว่าได้ทำอะไรไปหลายอย่าง มีนโยบายหลายนโยบายที่จะต้องสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน...แต่สิ่งที่ปรากฏเป็นหลักฐานไม่อาจจะบอกได้เลยว่า...ประเทศไทยเข้าใกล้คำว่า“ความยั่งยืน”ได้เลย...
เอาง่ายๆเลยนะตัวเลขผู้ที่ขอยื่นรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ“บัตรคนจน”...ลองดูสิว่าตัวเลขมันเพิ่มขึ้นหรือลดลง...ตั้งแต่เริ่มเปิดให้คนไทยได้ลงทะเบียนเข้ารับสิทธิปีแรกสิบกว่าล้านคน...มาถึงปีล่าสุด...ตัวเลขยื่นขอทะลุไป 24 ล้านคน...กระทรวงการคลังคาดว่าหลังการคัดกรองแล้วจะเหลือประมาณ 20 ล้านคน...ประชากรไทยทั้งประเทศตีคร่าวๆ 70 ล้านคน...สรุปว่าเรามี“คนจน”เกือบ 1 ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศ
อีกตัวอย่างรายงานของธนาคารโลก ล่าสุด...ที่ระบุว่าในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมา ประเทศไทยมีความก้าวหน้าที่โดดเด่นในการลดความยากจน แต่ความเหลื่อมล้ำจะยังคงอยู่ในระดับสูง...ประชากรส่วนใหญ่ของไทยอยู่ในพื้นที่ชนบทและส่วนใหญ่ ประกอบอาชีพเกษตรกรรม…และกลุ่มคนยากจนของไทย 79% อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบท ส่วนใหญ่อยู่ในครัวเรือนเกษตรกรรม รายได้เฉลี่ยต่อเดือนของครัวเรือนในชนบทอยู่ที่ประมาณ 68% ของครัวเรือนในเมือง และผู้คนในครัวเรือนในชนบทยังคงประสบปัญหาการศึกษาในระบบในระดับต่ำ มีผู้ที่ต้องอาศัยการพึ่งพิงจำนวนมากขึ้น และมีสภาพความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก…
เชื่อว่าหลายคนคิดและเข้าใจเหมือนกับ...เศรษฐศาสตร์วันหยุด...ว่าเราจะเติบโตอย่างยั่งยืนและแข็งแกร่ง...มันต้องเติบโตและแข็งแกร่งมาจากข้างใน...หมายถึงเราต้องพึ่งพาและยืนบนลำแข้งของตัวเองได้...โดยเฉพาะในมิติด้านเศรษฐกิจ...แต่ที่ผ่านมาในช่วงโควิด-19 ระบาด...สะท้อนภาพเศรษฐกิจไทยได้ชัดเจนเลยว่า...โครงสร้างเศรษฐกิจไทย...ยังต้องพึ่งจมูกคนอื่นหายใจ...ยกตัวอย่างภาคท่องเที่ยว ที่เรายึดเอาเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์หลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจ...เมื่อคนเดินทางไม่ได้...ธุรกิจท่องเที่ยวพังพินาศ
แม้ว่าตอนนี้สถานการณ์เรื่องโควิด-19 ดูจะคลี่คลาย การท่องเที่ยวเริ่มจะฟื้นตัว...แต่วิธีคิดของรัฐบาลก็ยังฉาบฉวย หวังจะโตแต่เปลือกนอกอยู่ดี...เช่น...รมว.การท่องเที่ยวฯเสนอให้ร้านเหล้า ผับ บาร์ เปิดได้ถึงตี 4. ...รัฐบาลอนุญาตให้ต่างชาติเข้ามาซื้อและเป็นเจ้าของที่ดินเพื่ออยู่อาศัยได้ ฯลฯ...แบบนี้ภาคการท่องเที่ยวไทยจะเติบโตแบบแข็งแกร่งและมีคุณภาพได้แบบไหนกัน?????
ส่วนเรื่องภาคการผลิต...พอไม่มีแรงงานต่างด้าว...ก็ทรุดฮวบไปอีกเหมือนกัน...จริงอยู่ว่าคนไทยไม่ทำงานที่ใช้แรงมาก และวัยแรงงานเราก็มีน้อย...แต่เราพูดถึงเรื่องการใช้เครื่องจักรใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการผลิตนานแค่ไหนแล้ว สินค้าที่ผลิตเราพูดถึงการยกระดับสินค้าจากสินค้าปฐมภูมิ(ที่ใช้แรงงานมาก)ไปสู่สินค้ามูลค่าสูงที่ใช้แรงงานไม่มากนัก...เราพูดเรื่องนี้มานานแค่ไหนแล้ว...แต่ผลที่เกิดขึ้นจริงเราก็ยังวนอยู่โครงสร้างการผลิตแบบเดิมอยู่ดี
ประเทศไทยคือประเทศเกษตรกรรม คนส่วนใหญ่ของประเทศคือเกษตรกร...ถ้าตัวเลขความยากจนและความเหลื่อมล้ำมันฟ้องแบบนี้..วิธีคิดและการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างยังไม่มี...!! เราจะบอกได้ไงว่าเรากำลังมุ่งหน้าสู่การพัฒนาและเติบโตอย่างยั่งยืน...
l พงษ์พันธุ์ l
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี