วันเสาร์ ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
รายได้โตไม่ทันรายจ่าย  ปัจจัยกดดันปัญหาหนี้ครัวเรือนไทย

รายได้โตไม่ทันรายจ่าย ปัจจัยกดดันปัญหาหนี้ครัวเรือนไทย

วันจันทร์ ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2565, 06.10 น.
Tag :
  •  

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ ระบุว่า หนี้ครัวเรือนไทย ณ ไตรมาส 2 ปี 2022 อยู่ที่ 14.76 ล้านล้านบาท ขยายตัว 3.5%YOY มีทิศทางชะลอลงต่อเนื่องหลายไตรมาส โดยขยายตัวต่ำกว่าค่าเฉลี่ยก่อนเกิดวิกฤตโควิดและเพิ่มช้าสุดในรอบ 18 ปี จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนไทยต่อ GDP ลดลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ 88.2% นอกจากนี้ยังเป็นผลจาก Nominal GDP ที่ดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังผ่อนคลายนโยบายควบคุมโรคและเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงผลด้านราคาที่ปรับสูงขึ้นมากในปีนี้ หากพิจารณาการขยายตัวของสินเชื่อครัวเรือนในระบบธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 2 พบว่าชะลอลงเกือบทุกหมวด โดยเฉพาะสินเชื่อที่อยู่อาศัย สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลแม้จะชะลอลงบ้าง แต่ถือว่ายังขยายตัวสูง ส่วนหนึ่งสะท้อนแนวโน้มการกู้ยืมเพื่อใช้จ่ายทดแทนการขาดสภาพคล่อง ในภาวะรายได้ฟื้นตัวไม่ทันรายจ่าย ขณะที่สินเชื่อบัตรเครดิตขยายตัวเร่งขึ้นจากการใช้จ่ายที่ฟื้นตัว

ขณะที่รายได้ฟื้นช้ากว่ารายจ่ายจะเป็นปัจจัยกดดันปัญหาหนี้ครัวเรือนไทยในระยะถัดไป โดยผลสำรวจจาก EIC Consumer survey 2022 พบว่า (1) ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ค่าครองชีพคนไทยสูงขึ้นต่อเนื่องสวนทางกับรายได้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่ยังไม่เพิ่มขึ้น (ผู้บริโภคเกือบ 2 ใน 3 ยังมีรายได้ไม่เท่ากับก่อนเกิดวิกฤตโควิด โดยเฉพาะกลุ่มคนรายได้น้อยที่รายได้ฟื้นช้ากว่ากลุ่มคนรายได้สูง)และ (2) ในช่วง 6 เดือนข้างหน้าผู้บริโภค43.8% คาดว่ารายได้จะโตไม่ทันรายจ่าย ส่งผลให้ต้องเผชิญปัญหา 3 ด้าน ได้แก่ ปัญหารายได้ไม่พอรายจ่าย ปัญหาเงินออมลดลง และปัญหาการชำระหนี้ ทำให้ครัวเรือนเหล่านี้มีสภาพคล่องรองรับค่อนข้างน้อย และมีความเสี่ยงที่จะก่อหนี้เพิ่มขึ้นในอนาคต


EIC ประเมินว่า สัดส่วนหนี้ครัวเรือนไทยต่อ GDP จะปรับลดลงต่อเนื่องอยู่ที่ 86-87% ณ สิ้นปี 2022 ตามการเติบโตของ Nominal GDP ที่เป็นผลจากแนวโน้มเงินเฟ้อสูงเป็นหลัก อย่างไรก็ดีสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ที่มีแนวโน้มลดลง จะไม่สะท้อนปัญหายอดคงค้างหนี้ครัวเรือนในภาพรวมที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในระยะข้างหน้าได้ ท่ามกลางภาวะรายได้โตช้ากว่ารายจ่ายของครัวเรือนบางกลุ่มและวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น

EIC มองว่า มาตรการแก้ไขหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืนยังเป็นเรื่องท้าทาย โดยหนี้ครัวเรือนเป็นปัญหาหยั่งรากลึกในเศรษฐกิจไทยยาวนาน นับเป็นความท้าทายสำหรับภาครัฐที่จะแก้ไขปัญหานี้ให้ได้อย่างยั่งยืนและสามารถลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ได้สำเร็จในระยะข้างหน้า ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งภาครัฐสถาบันการเงิน รวมถึงครัวเรือน มุ่งจัดการปัญหาหนี้ครัวเรือนทั้งระบบตั้งแต่ก่อนเป็นหนี้จนถึงการชำระหนี้ค้าง โดยยึดหลัก “ลดก่อ (หนี้) ชะลอรายจ่าย สร้างรายได้ยั่งยืน” เริ่มตั้งแต่นโยบายปัจจุบันที่ภาครัฐสนับสนุนมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ให้สอดคล้องกับกระแสรายได้ในอนาคตของลูกหนี้ นโยบายระยะปานกลางมุ่งส่งเสริมวินัยการเงินและสร้างความรู้ทางการเงินเพื่อลดการก่อหนี้เกินตัวในอนาคต ลดการพึ่งพาหนี้นอกระบบ และเพิ่มโอกาสเข้าถึงหนี้ในระบบ รวมถึงนโยบายระยะยาวส่งเสริมทักษะและโอกาสในการแข่งขันของแรงงานให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เพื่อเพิ่มรายได้ให้เพียงพอค่าใช้จ่ายและภาระหนี้ที่สูงขึ้น

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ชีพจรโลกธุรกิจ : 17 พฤษภาคม 2568 ชีพจรโลกธุรกิจ : 17 พฤษภาคม 2568
  • กรุงเทพประกันชีวิต ปั๊มเบี้ยรับโต 32% กรุงเทพประกันชีวิต ปั๊มเบี้ยรับโต 32%
  • แบงก์ชี้ เงินบาทยังคงแข็งค่า แต่ไม่สะท้อนความเป็นจริงที่ ศก.ยังอ่อนแอ แบงก์ชี้ เงินบาทยังคงแข็งค่า แต่ไม่สะท้อนความเป็นจริงที่ ศก.ยังอ่อนแอ
  • ‘คลัง’ มอบ ‘ธ.ออมสิน’ เทแสนล้านผุด Soft Loan ช่วยธุรกิจรับมือภาษีสหรัฐฯ ‘คลัง’ มอบ ‘ธ.ออมสิน’ เทแสนล้านผุด Soft Loan ช่วยธุรกิจรับมือภาษีสหรัฐฯ
  • Bitget ปรับเป้าราคาบิทคอยน์ไตรมาสสองพุ่งแตะ 120,000 ดอลลาร์  จับตาตระกูลทรัมป์เข้ามาในคริปโทเป็นทั้งโอกาสและความเสี่ยง Bitget ปรับเป้าราคาบิทคอยน์ไตรมาสสองพุ่งแตะ 120,000 ดอลลาร์ จับตาตระกูลทรัมป์เข้ามาในคริปโทเป็นทั้งโอกาสและความเสี่ยง
  • PROUD เปิดตัวบ้านเดี่ยว Ultra Luxury ดีไซน์ใหม่ พร้อม Supercar Garage PROUD เปิดตัวบ้านเดี่ยว Ultra Luxury ดีไซน์ใหม่ พร้อม Supercar Garage
  •  

Breaking News

ยิ่งใหญ่! พ่อเมืองกาญจน์ เปิด 'งานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช'

smsเตือนภัยครั้งแรกของปี! พายุฝนถล่มหนัก'เกาหลีใต้' ทางการสั่งปิดลำธารหลัก25สาย

ระทึก! แผ่นดินไหวขนาด 2.0 ต.ถ้ำลอด อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน

จับตา! 13 มิ.ย. วันมหาระทึก ศาลฎีกาส่งหมายนัดไต่สวน ไปปิดที่'บ้านจันทร์ส่องหล้า'แล้ว

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved