วันที่ 5 มกราคม 2566 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส เปิดเผยว่า ปี 2565  ถือว่าเป็นปีที่ประสบความสำเร็จในการต่อสู้กับภัยไซเบอร์และขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล ปี 2566 โดยจะขับเคลื่อนต่อในการทำระบบคลาวด์กลางด้านสาธารณสุข Health Link ระบบเชื่อมโยง แลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพและประวัติการรักษาทั่วประเทศอย่างมีมาตรฐาน ปลอดภัย และคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล Health Link จะเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพและประวัติการรักษาโดยระบบดึงข้อมูลจากระบบ Hospital Information System ที่ไม่รบกวนงานหลักของโรงพยาบาล ปัจจุบันมีโรงพยาบาลเข้าร่วมโครงการแล้ว 150 แห่ง และอยู่ระหว่างการขยายผลอีก 100 แห่งทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตาม การให้บริการระบบคลาวด์กลางภาครัฐ ข้อมูลกันยายน 2565 ได้ให้บริการระบบคลาวด์กลางภาครัฐ จำนวน 219 กรม 874 หน่วยงาน3,065 ระบบงาน มีการพัฒนาบุคลากรตั้งแต่ระดับพื้นฐาน จนถึงระดับผู้เชี่ยวชาญมากว่า 2,500 คน ช่วยรัฐประหยัดงบประมาณได้ถึง 30 - 60% และรัฐบาลมีแผนที่จะทรานฟอร์มทุกหน่วยงานของรัฐ เป็นรัฐบาลดิจิทัล 100% ในปี 2566 การพัฒนาคลาวด์กลางภาครัฐได้ให้บริการ Virtual Machine สําหรับหน่วยงานภาครัฐ 

ทั้งนี้การดำเนินการกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะใช้แนวทาง ตัด ซิม สาย เสา หรือการตัดสัญญาณสื่อสารที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์นำมาหลอกลวงประชาชน รวมถึงการใช้เทคโนโลยีทราบพิกัดการกระทำผิดมีการปิดกั้นสัญญาณและเข้าจับกุม ซึ่งจะช่วยกันแก้ปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์ จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้หมดไป ส่วนในทางกฎหมาย จะผลักดัน พระราชกำหนดการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อสกัดกั้นการทำธุรกรรมหลอกลวว

นอกจากนี้การผลักดันโครงการสำคัญ Digital ID โดยรัฐบาลจะผลักดันให้ทุกกระทรวงที่ต้องทำธุรกรรมออนไลน์กับประชาชนต้องใช้ระบบยืนยันตัวตนด้วย Digital ID รัฐบาลเชื่อมั่นว่า Digital ID จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ทัดเทียมสากล ทั้งในมิติของกฎหมาย ได้มี ความคืบหน้า (ร่าง) พ.ร.ฎ. ว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการเกี่ยวกับระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลที่ต้องได้รับใบอนุญาต พ.ศ. .... ที่กำลังจะประกาศใช้ในเร็วๆ นี้ รวมไปถึงการร่างกฎหมายลูกที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตามนอกจาก Digital ID บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และ ภาคเอกชนทำ Digital Health ID เพื่อให้บริการสาธารณสุขและบริการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพแก่ประชาชน รวมทั้งพัฒนาระบบนำร่องHealth Platform ด้วยเทคโนโลยี บลอคเชน (Blockchain)

สำหรับการให้บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะสู่ชุมชน ดีอีเอสเร่งดำเนินการเพื่อพัฒนาระบบโครงสร้างเทคโนโลยีรองรับการใช้งานของประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์หรือออนไลน์ สำนักงานสถิติแห่งชาติรายงานการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ของประชาชน ในไตรมาส 3 ปี 2565 ครัวเรือนมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 21.1 ล้านครัวเรือน คิดเป็น 89.9% มีโทรศัพท์มือถือ 22.7 ล้านครัวเรือน คิดเป็น 96.9% โดยประชาชนอายุ 6 ปีขึ้นไป ประมาณ 65.6 ล้านคน มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 57.0 ล้านคน คิดเป็น 87.0% ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ 62.3 ล้านคน คิดเป็น95.0% ผู้มีโทรศัพท์มือถือ 57.7 ล้านคน คิดเป็น 88.0%

นอกจากนี้ความคืบหน้าทางด้านพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA) กฎหมายที่ออกมาคุ้มครองสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล กำหนด Personal Data Protection Regulation และ Cross-Border Data Transfer ที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากลและเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ ให้ความสำคัญกับการปกป้องผลประโยชน์กับประชาชนไทยบนโลกออนไลน์ โดยหลังจากที่ได้มีการประกาศใช้ ทำให้ประเทศไทยมีภาพลักษณ์ที่ดี และสามารถสร้างความเชื่อมั่นในเวทีนานาชาติ ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจ การค้าออนไลน์ข้ามพรมแดน การเจรจาข้อตกลงทางการค้า และความร่วมมือกับต่างประเทศ และสามารถลดอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ผ่านออนไลน์ได้ นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะออกพระราชกำหนดให้อำนาจหน่วยงานดูแลการกระทำที่มิชอบเพื่อลดการทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมายผ่านทางออนไลน์ด้วย