ครม.เห็นชอบกรอบงบประมาณกองทุนส่งเสริมววน.ปี 2567 จำนวน 31,100 ล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนแผนด้านววน. มุ่งสู่การสร้างความสามารถในการแข่งขัน แก้ปัญหาสังคม-สิ่งแวดล้อม-ภาวะฉุกเฉิน และพัฒนาศักยภาพ ววน. ของประเทศ เพื่อเป้าหมายสำคัญให้ไทยหลุดพ้นกับดักประเทศรายได้ปานกลาง
10 มกราคม 2566 รศ.ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบกรอบงบประมาณกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จำนวน 31,100 ล้านบาท ตามที่ สกสว. เสนอผ่านสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติโดยกองทุนฯ จะแบ่งการใช้งบประมาณเป็น3 ส่วน ตามแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ที่ผ่านมติ ครม.แล้วคือ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อแก้ปัญหาสังคม สิ่งแวดล้อมภาวะฉุกเฉินและเพื่อพัฒนาศักยภาพทางวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ รวมถึงการพัฒนาความรู้ขั้นแนวหน้าเพื่อเตรียมความพร้อมให้สามารถตอบสนองต่อโอกาสและความท้าทายในอนาคต
ทั้งนี้ วันที่ 16 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา คณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กสว.)มีมติเห็นควรให้มีการตั้งคำของบประมาณของกองทุนส่งเสริม ววน.เท่ากับกรอบวงเงินดังกล่าวเพื่อสนับสนุนงบประมาณให้แก่หน่วยงานที่ทำหน้าที่พัฒนาวิทยาศาสตร์ การวิจัยและนวัตกรรมจำนวน 188หน่วยงาน ก่อนที่ สกสว.จะเสนอคำของบประมาณของกองทุนฯ ต่อคณะกรรมการพิจารณางบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมและสำนักงบประมาณต่อไป
สำหรับกรอบวงเงินงบประมาณด้าน ววน. ปี 2567 จำนวน 31,100 ล้านบาท จะถูกจัดสรรใน 2 รูปแบบ ได้แก่ (ก) งบประมาณเพื่อสนับสนุนงานเชิงกลยุทธ์ (Strategic Fund) จำนวนร้อยละ 60-65 เพื่อสนับสนุนการวิจัยที่ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ของประเทศตามแผนด้าน ววน.และ (ข) งบประมาณเพื่อสนับสนุนงานมูลฐาน (Fundamental Fund) จำนวนร้อยละ 35-40 เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของหน่วยงานตามพันธกิจการพัฒนาประเทศโดยในปี 2567 จะเพิ่มการขับเคลื่อนผลงานวิจัยตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2564 รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสม จำนวน 5,000 ล้านบาทซึ่งคาดว่าจะมีผลตอบแทนการลงทุนไม่ต่ำกว่า2 เท่า
“ประเทศไทยมีเป้าหมายที่จะหลุดพ้นจากกับดักประเทศรายได้ปานกลางภายในปี 2580 เพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชน เศรษฐกิจฐานราก และเลื่อนอันดับดัชนีการพัฒนาอย่างยั่งยืนจากอันดับที่ 44 มาอยู่ในอันดับที่ 35 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไปสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ที่ร้อยละ 40 ภายในปี พ.ศ. 2573และการเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรเพื่อรองรับการปรับตัวสู่อนาคต จึงจำเป็นต้องลงทุนด้าน ววน. เพื่อขับเคลื่อนBCG ของประเทศ ยกระดับอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ เศรษฐกิจดิจิทัล ระบบสุขภาพ อาหารแห่งอนาคตเกษตรมูลค่าสูง ยกระดับรายได้เกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนด้วยนวัตกรรม ยานยนต์ไฟฟ้า ระบบรางและโลจิสติกส์การสร้างการเติบโตในภูมิภาคต่างๆเพื่อลดช่องว่างทางเศรษฐกิจสังคม การพัฒนาบุคลากรคุณภาพสูงการผลิตบัณฑิตทักษะสูงและการพัฒนาผู้ประกอบการเพื่อตอบโจทย์การพัฒนาประเทศในปัจจุบันและการเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคต ขณะที่การแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม เช่น ขยะ หมอกควัน PM2.5 โลกร้อน ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องใช้องค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมจากงบลงทุนด้าน ววน. ดังกล่าว ทั้งนี้ ประเทศไทยมีเป้าหมายการลงทุนด้าน ววน. ต่อ GDP เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 2.0 ในปี พ.ศ. 2580” ผู้อำนวยการ สกสว. กล่าวสรุป
รศ.ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี