กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯดันผ่อนปรน-เปิดด่านชายแดน หนุนการค้า เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว เน้นฟื้นฟูภาวะเศรษฐกิจชาติหลังโควิด
เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2566 นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ เปิดเผยว่า สาระสำคัญวันนี้มีการประชุมคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ เป็นประธาน ร่วมด้วยรองประธาน คือ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน พลตำรวตตรีสุพิศาล ภักดีนฤนาถ และคณะกรรมาธิการ ที่อาคารรัฐสภา
โดยได้ประชุมพิจารณาเรื่องสภานะและความคืบหน้าของการเปิดด่านชายแดนเพื่อการค้า เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวตามแนวชายแดนไทย มี 13 หน่วยงานรัฐเข้าชี้แจง คือ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ผุ้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นต้น ซึ่งหลายหน่วยงานส่งผู้แทนหรือตัวแทนที่เชี่ยวชาญเข้าร่วมการชี้แจง
นางมัลลิกา กล่าวว่า กรรมาธิการได้รับเรื่อง ร้องขอจากประชาชนตามจังหวัดชายแดนและภาคเอกชนและหอการค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจชายแดนทั้งนี้สถานการณ์โรคระบาดทำให้ขาดสภาพคล่องของการค้าขายดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่คณะกรรมาธิการจะได้วางแนวยุทธศาสตร์และผลักดันไปสู่ฝ่ายบริหารให้แก้ไขปัญหา ให้ตรงจุดกับสถานการณ์ประเทศและความต้องการของประชาชนโดยเฉพาะปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทั้งทางเศรษฐกิจสังคมวัฒนธรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการประชุมในวันนี้ประธานเน้นเป้าหมายของการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วในสถานการณ์หลังโรคระบาดและพิจารณาศึกษาด้วยความรอบคอบให้รับทราบข้อมูลข้อเท็จจริงครบถ้วน โดยเน้นทราบแนวนโยบายและการดำเนินการของจังหวัดที่เกี่ยวกับการเปิดด่านชายแดนทั้งในส่วนของด้านถาวร ด่านชั่วคราวหรือจุดผ่อนปรนทางการค้าและช่องธรรมชาติที่อยู่ในความรับผิดชอบของจังหวัดต่างๆ
ทั้งนี้ เพื่อการค้าเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวให้ได้ทราบสถานะและความคืบหน้าของการเปิดด่านชายแดนที่อยู่ในรับผิดชอบปัญหาและอุปสรรคกับการเปิดด่านชายแดนและแนวทางการแก้ไขที่ผ่านมาตลอดจนข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของทางจังหวัดและหน่วยต่างๆในการกำหนดและมาตรการสำหรับการเปิดด่านชายแดนเพื่อรองรับผู้เดินทางเข้า - ออกประเทศ และส่งเสริมการค้าเศรษฐกิจรวมทั้งการท่องเที่ยวตามแนวชายแดนไทย
"จากตัวเลขการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศชายแดนและผ่านแดนแม้เกิดภาวะวิกฤตโรคระบาดแต่ ทั้งภาครัฐและเอกชนก็พยายามที่จะไม่ให้เป็นอุปสรรคจึงยังมีความได้เปรียบและเป็นทางออกของชาติในการที่จะฟื้นเศรษฐกิจได้เร็วที่สุด ประกอบกับทางกระทรวงพาณิชย์มีการส่งเสริมการค้าชายแดนทุกด้านและได้มีการประสานธนาคาร EXIM สนับสนุนเงินกู้เพื่อผลักดันการส่งออกสินค้าไทยและมีการอนุมัติตากธนาคารไปแล้วกว่า 6,000 ล้านบาท อันนี้ในเฉพาะส่วนของ SME และกิจการค้าชายแดนผ่านแดนและนโยบายของธนาคารก็ส่งเสริมการค้าการส่งออกทุกระยะ ดังนั้นจึงเห็นสมควรว่าเราควรจะผลักดันและผ่อนปรนกฎ-กติกามากมายทางด้านชายแดนเพื่อให้เกิดความเคลื่อนไหวทางด้านการค้าและเศรษฐกิจรวมทั้งการท่องเที่ยวในสภาวะการณ์นี้" นางมัลลิกา กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี