nn จำได้ว่าหลังจากยุควิกฤตต้มยำกุ้ง...พนักงานในธุรกิจการเงิน...ก็พ้นสภาพจากคำว่า “มนุษย์ทองคำ”...และกลุ่มพนักงานที่ขึ้นมารั้งตำแหน่ง “มนุษย์ทองคำ” ก็คือบุคลากรและพนักงานในสายงานด้านเทคโนโลยี...โดยเฉพาะช่วงการระบาดของโควิด-19 ใหม่ๆ ที่เกิดการหลังจากการแย่งชิงแรงงานในสายงานนี้อย่างหนักหน่วง...แต่มาถึงมาวันนี้ที่โควิด-19 ได้ระบาดไปแล้ว 3 ปี และผู้คนทั่วโลกเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติมากขึ้นแล้ว...ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะยังเรียกบุคลากรในงานเทคโนโลยีว่า“มนุษย์ทองคำ”...ได้อีกหรือไม่?????
เพราะขณะนี้บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี...ต่างก็ประกาศที่จะมีแผนการเลิกจ้างพนักงานครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์...อย่างเช่น.. Amazon ที่กำลังเลิกจ้างพนักงาน 18,000 คน โดยผู้บริหารของ Amazon บอกว่าบริษัทได้เผชิญกับความไม่แน่นอนและเศรษฐกิจที่ยากลำบาก และการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะช่วยให้แสวงหาโอกาสระยะยาวด้วยโครงสร้างต้นทุนที่แข็งแกร่งขึ้น
ขณะที่ Apple ผู้ผลิตiPhone ได้หยุดจ้างงานหลายงานนอกเหนือจากการวิจัยและพัฒนา ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนการลดงบประมาณในช่วงปีใหม่ และแม้ว่าการเลิกจ้างจะไม่ใช้กับทีมที่ทำงานในฝ่ายคิดค้นอุปกรณ์ในอนาคตและฝ่ายที่ทำงานด้านระยะยาวอื่นๆ แต่จะส่งผลต่อการทำงานบางส่วนขององค์กรและตำแหน่งด้านวิศวกรรมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์มาตรฐาน
Meta เจ้าของแพลตฟอร์ม Facebook กำลังปลดพนักงาน 11,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการปลดพนักงานครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์บริษัทโซเชียลมีเดีย ซึ่งบริษัทกำลังพยายามลดต้นทุนหลังจากรายได้ในหลายไตรมาสที่น่าผิดหวัง ทั้งนี้จำนวนพนักงานลดลง 13% และ Meta จะดำเนินการจ้างงานตลอดในไตรมาสแรก
Microsoft แถลงข่าวเมื่อวันที่ 18 มกราคม ที่ผ่านมาว่าจะปลดพนักงาน 10,000 ตำแหน่งในปีนี้ หรือประมาณ 5% ของจำนวนพนักงาน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดค่าใช้จ่าย 1.2 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่สองของปีงบการเงิน โดย Satya Nadella ซีอีโอของ Microsoft กล่าวในบล็อกโพสต์และอีเมลภายในถึงพนักงานว่า บริษัทจะยังคงจ้างงานใน “‘ตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ” อีกทั้งยังกล่าวในงาน World Economic Forum ในเมืองดาวอสว่า อุตสาหกรรมเทคโนโลยีจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับการชะลอตัวของเศรษฐกิจในวงกว้าง เราควรแสดงผลผลิตที่เพิ่มขึ้นด้วยเทคโนโลยีของเราเอง
Twitter กำลังเผชิญกับการกู้ยืมเงินครั้งล่าสุด และหนี้สินที่ตามมา ซึ่งน่ากลัวกว่าความกังวลทางเศรษฐกิจ โดย Elon Musk เจ้าของ Twitter ได้เลิกจ้างงานทางอีเมลประมาณ 3,700 ตำแหน่ง นอกจากนี้ยังยกเลิกนโยบายการทำงานจากทุกที่ของบริษัท โดยขอให้พนักงานที่เหลืออยู่รายงานตัวที่สำนักงาน และ Musk ได้โพสต์ลงใน Twitter เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2565ว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีทางเลือกเมื่อบริษัทกำลังขาดทุนมากกว่า 4 ล้านดอลลาร์ต่อวัน
แต่ดูเหมือนความน่ากังวลต่ออนาคตในการมีงานทำยังไม่จบเพียงแค่นี้ โดยAndy Challenger รองประธานอาวุโส ของบริษัท Challenger, Grey & Christmas (CGC) บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำของโลก ระบุว่าการปลดพนักงานด้านเทคโนโลยีอาจชี้ให้เห็นถึงความเจ็บปวดในวงกว้างที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นไปได้มากว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น และในอนาคตอุตสาหกรรมอื่นๆ จะเลิกจ้างงานในขณะที่เศรษฐกิจยังคงถดถอย
พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี