น.ส.มัลลิกา จิรพัฒนกุล ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายขายบริษัท แลคตาซอย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายนมถั่วเหลือง “แลคตาซอย” เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2566 บริษัทมีแผนจะบุกตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ควบคู่กัน ตลาดเป้าหมายคือกลุ่มประเทศอินโดไชน่า ส่วนในประเทศยังเน้นขายผ่านช่องทางหลัก ด้วยการกระจายสินค้าผ่านคลังสินค้ากว่า 73 แห่ง โดยจะมีการเพิ่มพื้นที่คลังสินค้า เพื่อตอบสนองร้านค้าย่อย และยังให้ความสำคัญกับการขายผ่านห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่และร้านค้าปลีก อีกทั้งมุ่งพัฒนาการขายผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น มีการปรับโฉมเว็บไซต์ให้ทันสมัยและรองรับระบบการขายแบบ E-Commerce พร้อมจัดทำระบบ CRM อย่างเต็มรูปแบบ

นอกจากนี้ มีแผนขยายกำลังการผลิตจากเดิมอีก 300 ล้านกล่อง/ปี โดยลงทุนปรับเปลี่ยนเครื่องจักรรุ่นใหม่ในโรงงานที่ปราจีนบุรี และลงทุนกว่า 150 ล้านบาท เพื่อติดตั้งโซลาร์เซลล์ส่วนกลยุทธ์การทำตลาดในประเทศ ได้จัดทำแคมเปญและเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ใหม่ คือ ศิลปินสุดฮอต “เปเปอร์ เพลนส์” (Paper planes) พร้อมทำเพลงประกอบหนังโฆษณา “แลคตาซอย 125 มิลลิลิตร” ขณะที่ตลาดต่างประเทศ จะเริ่มเข้าไปทำการโฆษณาอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตามในช่วงไตรมาส 2/2566 จะมีการพัฒนาและปรับสูตรแลคตาซอยบางรสชาติ ให้สอดคล้องความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงพัฒนาสินค้ากลุ่ม “แลคตาซอย โกลด์ซีรีย์” ด้วย

“กรณีการปรับราคาแลคตาซอย ขนาด 125 มิลลิลิตร จาก 5 บาท เป็น 6 บาท และขนาด 300 มิลลิลิตร จาก 10 บาทเป็น 12 บาท โดยไม่ได้ลดปริมาณ ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม เป็นผลมาจากต้นทุนที่สูงมาก โดยเฉพาะถั่วเหลือง นมผง ที่ขึ้นไปเกือบ 40% ไขมันพืชก็ขึ้นเท่าตัว บรรจุภัณฑ์ต่างๆ ก็ขึ้นราคา ที่สำคัญคือภาษีความหวานซึ่งบริษัทแบกรับภาระมาตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน โดยแลคตาซอยเป็นแบรนด์สุดท้ายที่ขึ้นราคา สำหรับภาพรวมธุรกิจแลคตาซอยในปี 2565 มียอดขาย 10,614 ล้านบาท เติบโต 3.12% จากปี 2564 แบ่งเป็นยอดขายในประเทศ 80% ต่างประเทศ 20%และในปี 2566 คาดว่ายอดขายจะเติบโต 5-8%” น.ส.มัลลิกา กล่าว