บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย ร่วมฉลองครบรอบ 100 ปีของแบรนด์ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดพร้อมเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ 4 รุ่นใหม่โดยบีเอ็มดับเบิลยู R 18 และบีเอ็มดับเบิลยู R nineT รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี จะผลิต 1,923 คันในแต่ละรุ่นทั่วโลก บีเอ็มดับเบิลยู R nineT Urban G/Sและบีเอ็มดับเบิลยู R nineT Scramblerมาพร้อมสีตัวถังภายนอกแบบใหม่ ช่วยเสริมรูปลักษณ์ให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้นกว่าเดิม
บีเอ็มดับเบิลยู R 18 รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี (สี Classic Chrome) ราคา 1,219,000 บาท โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ที่สื่อถึงแก่นแท้ของมอเตอร์ไซค์ในแบบดั้งเดิมการออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจากต้นกำเนิดของแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด รวมถึงได้รับแรงบันดาลใจจากมอเตอร์ไซค์คลาสสิกรุ่นพี่อย่างบีเอ็มดับเบิลยู R 5 ถ่ายทอดออกมาเป็นเอกลักษณ์ความงามที่ก้าวข้ามกาลเวลาด้วยดีไซน์เปลือยสะกดสายตา
เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 4 จังหวะ 2 สูบขนาดใหญ่ ระบายความร้อนด้วยอากาศและน้ำมัน ความจุ 1,802 ซีซีพละกำลังสูงสุด 67 กิโลวัตต์ (91 แรงม้า) ที่ 4,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 158 นิวตันเมตร ที่ 3,000 รอบต่อนาที ความเร็วสูงสุดมากกว่า 180 กม./ชม.รวมทั้งใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยเพลามาพร้อมกับชุดเกียร์ 6 สปีด แบบ claw-shift และคลัตช์เดี่ยวแบบแห้ง ระบบช่วงล่างแบบเทเลสโคปิก มาพร้อมดิสก์เบรกคู่ที่ล้อหน้า ดิสก์เบรกเดี่ยวที่ล้อหลังคาลิปเปอร์ เบรกแบบตายตัว 4 ลูกสูบ และล้อซี่ลวดที่เสริมลุคให้สะดุดตายิ่งขึ้น มาพร้อม 3 โหมดการขับขี่ให้เลือก ได้แก่ “Rain”“Roll” และ “Rock”
บีเอ็มดับเบิลยู R nineT รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี (สี ClassicChrome) ราคา 1,099,000 บาท,บีเอ็มดับเบิลยู R nineT UrbanG/S (สี Imperial Blue Metallic)ราคา 809,000 บาท และบีเอ็มดับเบิลยู R nineT Scrambler (สี Manhattan Metallic Matt) ราคา 809,000 บาท
มอเตอร์ไซค์ในตระกูล R nineT ใหม่ มาใน 3 รุ่น ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู R nineT รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปีบีเอ็มดับเบิลยู R nineT Urban G/S และบีเอ็มดับเบิลยู R nineT Scrambler โดยทั้ง 3 รุ่นขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ ระบายความร้อนด้วยอากาศและน้ำมัน ความจุเครื่องยนต์ 1170 ซีซีที่ได้รับการพัฒนา ให้มีคุณสมบัติตามมาตรฐานมลพิษ EU-5 ส่งพละกำลังสูงสุด 80 กิโลวัตต์ (109 แรงม้า) ที่ 7,250 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 116 นิวตันเมตรที่ 6,000 รอบต่อนาที ให้ความเร็วสูงสุดมากกว่า 200 กม./ชม. ทั้งสามรุ่นมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 5.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร และรองรับน้ำมันเบนซินค่าออกเทน 95 ถึง 98 นอกจากนั้น ระบบคลัตช์แห้งแผ่นเดียว ทำงานด้วยระบบไฮโดรลิก และระบบเกียร์ 6 สปีด พร้อม Helical gear teeth ได้รับการติดตั้งมาเพื่อให้การส่งกำลังที่เหนือกว่าอีกด้วย
โหมดการขับขี่แบบ Pro ติดตั้งมาเป็นมาตรฐานในทั้ง 3 รุ่น ประกอบด้วยโหมดการขับขี่มาตรฐาน Rain และ Road เพิ่มเติมด้วยโหมด Dyna สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู R nineT รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี ส่วนบีเอ็มดับเบิลยู R nineT Urban G/S และ R nineT Scrambler มาพร้อมโหมด Dirt โดยขณะขับขี่ด้วยโหมด Dyna หรือ Dirt ผู้ขับขี่จะได้สัมผัสความสปอร์ตยิ่งขึ้น ระบบ Dynamic Brake Control หรือ DBC และ ABS Pro จะทำงานขณะขับขี่บนถนนที่มีแรงเสียดทานสูง ระบบ Dynamic Traction Control หรือ DTC ช่วยเสริมความปลอดภัยยิ่งขึ้นเมื่อเร่งความเร็ว ในขณะที่ระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อหลัง (MSR) จากการชะลอตัวหรือลดเกียร์ ช่วยให้ควบคุมรถได้มั่นคงและแม่นยำยิ่งขึ้น แม้ขณะเบรกในสภาวะการขับขี่ที่ยากลำบาก
การออกแบบของบีเอ็มดับเบิลยู R nineT Urban G/S และ R nineT Scrambler ใหม่ ยังคงรักษาองค์ประกอบอันเป็นเอกลักษณ์ของรถมอเตอร์ไซค์โรดสเตอร์ ด้วยไฟหน้า LED มาพร้อมไฟส่องสว่างตอนกลางวัน ไฟเลี้ยวแบบ LED ล้อซี่ลวดสีทอง และยางล้อออฟโรดในขณะที่ บีเอ็มดับเบิลยู R nineT รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี มากับไฟส่องสว่างแบบ LED พร้อมไฟหน้าแบบปรับได้ และไฟส่องสว่างตอนกลางวันระบบทำความร้อนที่แฮนด์ (Heated Grips) และโช้คหน้าแบบกลับหัวซึ่งสามารถปรับได้ยังช่วยเสริมการควบคุมรถและเสถียรภาพให้ดีขึ้น
บีเอ็มดับเบิลยู R nineT รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่งดงามด้วยสี Classic Chrome และชุดแต่ง Option 719 Wheel classic และ Option 719 Billet pack shadow คุณภาพสูง ในขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู R nineT Urban G/S และบีเอ็มดับเบิลยู R nineT Scramblerมาในสีฟ้า Imperial Blue Metallicและสี Manhattan Metallic Mattตามลำดับ
สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ และแคมเปญฉลองครบรอบ 100 ปี บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ได้ที่ www.bmw-motorrad.co.th หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ BMWMotorradTH เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวอื่นๆ