นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า จากการเผยแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก จากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา ก่อให้เกิดปัญหาการว่างงานของคนรุ่นใหม่ การถูกเลิกจ้าง ถึงแม้จากรายงานภาวะสังคมไทยของ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจะระบุว่ามีการจ้างงานเพิ่ม และอัตราการว่างงานปรับตัวดีขึ้นก็ตาม แต่วิกฤตครั้งนี้ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงสำคัญหลายประการให้แก่โครงสร้างสังคม พฤติกรรมของผู้คนที่เปลี่ยนแปลง
สำหรับปัจจัยดังกล่าวทำให้ธุรกิจหลายประเภทไม่สามารถแข่งขันหรืออยู่รอดได้หากยังยึดติดกับธุรกิจแบบเดิม ประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการรายใหม่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก มีความหลากหลายของช่วงอายุ ทั้งแบบเริ่มธุรกิจแบบตั้งใจอยากเป็นเจ้าของกิจการ เพราะไม่ต้องการเป็นมนุษย์เงินเดือน และการเริ่มต้นธุรกิจแบบมีความจำเป็น จากการตกงาน ขาดความแน่นอนในหน้าที่การงาน ทั้งนี้ยังขาดความรู้ ขาดประสบการณ์ในการทำธุรกิจ และขาดที่ปรึกษาในการแนะนำแนวทางในการวางแผนธุรกิจจึงทำให้หลายธุรกิจที่เริ่มต้นใหม่ต้องล้มเลิกกิจการไป ทั้งนี้ สสว.ได้ประสานให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) ค้ำประกันเงินกู้สถาบันการเงินให้ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี)วงเงิน 968 ล้านบาท เสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณา คาดว่าจะเห็นชอบเร็วๆ นี้ ซึ่งการค้ำประกันดังกล่าวเฉพาะเอสเอ็มอี รหัสสถานะบัญชี 21 หรือ 021 เป็นหนี้ค้างชำระเกิน 90 วัน โดยต้องเป็นลูกหนี้สถาบันการเงินที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไม่ปกติ ตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิตประกาศกำหนด เพื่อให้ผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาช่วงโควิด มีเงินทุนหมุนเวียนนำไปปรับปรุงกิจการรายละไม่เกิน 2 ล้านบาท รองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบอย่างน้อย 3,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ สสว.ยังร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และมหาวิทยาลัยศิลปากรทำโครงการะบบวินิจฉัย 360 องศา เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ระบบของภาครัฐ (SME Formalization) ผ่านระบบออนไลน์ จนถึงวันที่ 15สิงหาคม 2566 ตั้งเป้าหมายพัฒนาผู้ประกอบการระยะเริ่มต้นธุรกิจ รวมถึงผู้ที่สนใจเป็นผู้ประกอบการไม่น้อยกว่า 1,000 ราย ให้มีความรู้และเข้าใจสภาพแวดล้อมของธุรกิจ ทั้งด้านการตลาดผลิตภัณฑ์ การบริหารจัดการ กระบวนการผลิต/บริการ มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท/ปี
“ปัจจุบันมีเอสเอ็มอีอยู่ในระบบ 3.198 ล้านราย มีสัดส่วนการจ้างงาน 70% ของทั้งระบบ ซึ่งที่ผ่านมา สสว. ได้จัดโครงการให้เอสเอ็มอีพัฒนาและยกระดับธุรกิจให้ขยายตัวได้จากรายย่อย(ไมโคร)) ไปสู่ธุรกิจขนาดย่อม(เอส) จากขนาดย่อมไปสู่ขนาดกลาง(เอ็ม) และขนาดกลางไปสู่ขนาดแอล เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจรีไซเคิล เป็นต้น”นายวีระพงศ์กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี