ครม.อนุมัติยกเว้นค่าธรรมเนียมมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 และหมายเลข 9 ตั้งแต่เวลา 00.01 น.วันที่ 12 เม.ย.ถึงเวลา 24.00 น.วันที่ 18 เม.ย.อำนวยความสะดวก ช่วยประชาชนลดค่าครองชีพ สนับสนุนเงินหมุนเวียนเศรษฐกิจช่วงเทศกาลสงกรานต์
เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2566 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 11 เม.ย.66 ได้อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ภายในระยะเวลาที่กำหนด พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
โดยมีสาระสำคัญเป็นการการยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนต์บนทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 7 สายกรุงเทพมหานคร - บ้านฉาง ตอนกรุงเทพฯ - เมืองพัทยา รวมทางแยกไปบรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 34 (บางวัว) ทางแยกเข้าชลบุรี ทางแยกเข้าท่าเรือแหลมฉบัง ทางแยกเข้าพัทยา และตอน บ้านหนองปรือ - บ้านฉาง รวมทางแยกไปบรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3 (บ้านอำเภอ) และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ (ถนนกาญจนาภิเษก) ตอนพระประแดง - บางแค ช่วงพระประแดง - ต่างระดับบางขุนเทียน และตอนบางปะอิน - บางพลี ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของปี 66 ตั้งแต่เวลา 00.01 น.ของวันพุธที่ 12 เม.ย.66 ถึงเวลา 24.00 น.ของวันอังคารที่ 18 เม.ย.66 รวมระยะเวลา 7 วัน
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยสนับสนุนให้ประชาชนสามารถเดินทางได้สะดวกรวดเร็วในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ปีนี้มีวันหยุดต่อเนื่องกันระหว่างวันที่ 13 - 15 เม.ย.66 รวม 5 วัน ที่คาดหมายได้ว่าจะมีประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว เป็นผลให้การจราจรติดขัดในทุกสายทางที่ออกและเข้ากรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยการยกเว้นค่าธรรมเนียมดังกล่าวจะช่วยบรรเทาปัญหาจราจรติดขัดบริเวณหน้าด่านเก็บค่าผ่านทาง เกิดความคล่องตัว แล้วยังช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในกำรเดินทำง ลดภาระค่าครองชีพ ของประชาชน รวมทั้งเป็นกำรลดการใช้พลังงานของประเทศ และลดมลพิษทางอากาศด้วย
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมได้ประเมินผลจาการดำเนินการยกเว้นค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์ทั้ง 2 เส้นทางดังกล่าว คาดว่าจะมีการการสูญเสียรายได้ประมาณ 164.71 ล้านบาท โดยคาดการณ์จากปริมาณจราจรช่วงดำเนินการประมาณ 4,239,600 คัน และได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า เงินค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนต์บนมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 และหมายเลข9 ที่จัดเก็บได้ เป็นเงินทุนค่าธรรมเนียมผ่านทางซึ่งกรมทางหลวงได้รับยกเว้นไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน โดยนำส่งเป็นเงินนอกงบประมาณ(ทุนหมุนเวียน) และนำเงินค่าธรรมเนียมดังกล่าวมาใช้จ่ายตาม พ.ร.บ.กำหนดค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนต์บนทางหลวงและสะพาน พ.ศ.2497 และ พ.ร.บ.การบริหารทุนหมุนเวียน พ.ศ.2558 จึงไม่ก่อให้เกิดภาระต่องบประมาณแผ่นดินหรือภาระทางการคลัง ในอนาคต และไม่เข้าข่ายเป็นการดำเนินการที่มีผลเป็นการสร้างความผูกพันต่อ ครม.ชุดต่อไป ตามมาตรา 169(1) ของรัฐธรรมนูญ
นอกจากนี้ การยกเว้นค่าธรรมเนียมดังกล่าวจะก่อให้เกิดผลประโยชน์ตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจที่สามารถประเมินเป็นมูลค่าเงินได้ประมาณ 267 ล้านบาท ซึ่งประเมินจากมูลค่าการประหยัดค่าใช้จ่ายจากากรใช้รถและมูลค่าการประหยัดเวลาจากการเดินทาง รวมทั้งยังมีผลประโยชน์ที่ไม่สามารถประเมินเป็นมูลค่าเงินได้รวมอยู่ด้วยได้แก่ การเพิ่มกำลังซื้อสินค้าอุปโภคและบริโภคซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการต่างๆ และและผู้ผลิตมีรายได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวซึ่งคาดว่ารายได้จากการท่องเที่ยวจะก่อให้เกิดหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยคิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจประมาณ 227 ล้านบาท
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี