‘บินไทย’โกยรายได้Q1/66กว่า4.1หมื่นล้าน คาดปีนี้ควบรวมฝูงบิน‘ไทยสมายล์’เสร็จ
12 พฤษภาคม 2566 นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2566 การบินไทย และบริษัทย่อยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 41,507 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 11,181 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 271.2% มีกำไรจากการดำเนินงาน 13,034 ล้าน เพิ่มขึ้น 657% เนื่องจากการเติบโตของรายได้การขนส่งผู้โดยสารกลับมาให้บริการเที่ยวบินขนส่งผู้โดยสารเพื่อรองรับปริมาณความต้องการเดินทางที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากหลายๆ ประเทศมีการเปิดประเทศเพิ่มขึ้น ด้วยการเพิ่มความถี่เที่ยวบินในเส้นทางที่เป็นที่นิยม อาทิ ประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ และกลับมาเริ่มให้บริการในเมืองต่างๆของจีนตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา และมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (เคบิล แฟกเตอร์) ในเส้นทางทวีปยุโรป ออสเตรเลีย และประเทศญี่ปุ่นอยู่ในระดับที่สูงมาก ส่งผลให้ไตรมาสนี้ มีอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (เคบิล แฟกเตอร์) เฉลี่ยกว่าร้อยละ 80 มั่นใจปีนี้รายได้น่าจะถึงเป้าที่วางไว้ ที่ 1.3 - 1.4 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ การบินไทยเตรียมรับเครื่องบินใหม่ในปีนี้จำนวน 4 ลำ จากทั้งหมด 11 ลำ โดยจะเริ่มทยอยเข้ามาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม เป็นต้นไป เพื่อมาใช้ในเส้นทางบินในเมืองต่างของจีน และ ญี่ปุ่น และจะมีการทยอยเพิ่มเที่ยวบิน ในเมืองสำคัญ อาทิ โตเกียว ฮานิดะ นาโกย่า โอซาก้า ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป
สำหรับการปรับโครงสร้างรวมไทยสมายล์เหลือแบรนด์การบินไทย มีขั้นตอนในการดำเนินการ เตรียมควบรวมฝูงบิน เป็นเครื่องบินฟีดเดียวกัน เพื่อให้การใช้เครื่องบินเกิดความคุ้มค่า โดยสัปดาห์หน้าจะนำเสนอ ขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการเจ้าหนี้ ซึ่งหลังมีการอนุมัติจากคณะกรรมการฯ แล้วเสร็จ จะทำให้เครื่องบิน A320 ที่ไทยสมายล์ให้บริการอยู่จำนวน 20 ลำ การบินไทยก็จะนำให้บริการกับผู้โดยสารได้
“เราจะทำการการควบรวมฝูงบิน จำนวน 20 ลำ ซึ่งจะทำให้เสร็จภายในปีนี้ การรวมกันก็จะทำให้ต้นทุนต่อชั่วโมงลดลงถึง 20% ผลประกอบการของ A320 จะดีขึ้น แต่การรวมกันก็จะมีข้อจำกัดเรื่องใบอนุญาต โดยเครื่องบินจำนวน 20 ลำนี้ การบินไทยเป็นผู้เช่า แล้วให้ไทยสมายล์เช่าต่อ ก็จะต้องทำการยกเลิกสัญญาเช่าช่วง และจะต้องยื่นเรื่องต่อกระทรวงคมนาคม ซึ่งก็จะต้องใช้ระยะเวลา ดังนั้นการปรับโครงสร้างครั้งนี้ มีอีโคนามี่ออฟสเกล เป็นสิ่งสำคัญ การอัพพลายต่างๆ การให้บริการ ไทยสมายล์มีจำนวนผู้ใช้มาก เราก้ยังคงให้บริการรูปแบบเดิมจนกว่าการควบรวมจะสำเร็จ”
ขณะเดียวกันการขายทรัพย์สินตามแผนฟื้นฟู ได้เดินหน้าต่อเนื่อง โดยเครื่องบิน ขายได้แล้ว 25 ลำ เหลือรอขายอยู่ 12 ลำ และยังมีสำนักงานที่ยังรอการขาย ในประเทศ มีเชียงใหม่และพิษณุโลก ส่วนต่างประเทศ มี อังกฤษ ปีนัง และ ฮ่องกง ส่วนการชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟูของการบินไทย ที่มีหนี้อยู่ 1.4 แสนล้าน โดยหนี้บัตรโดยสารที่มีอยู่กว่า 13,000 ล้าน ได้ทยอยชำระไปแล้วกว่า 90% ที่เหลือจะทยอยชำระให้แล้วเสร็จภายในไตรมาส นี้
นอกจากนี้ หนี้การค้า สถาบัน การเงิน หุ้นกู้จะเริ่มทยอยจ่ายตั้งแต่กลางปี 2567 และตามแผนจะไปสิ้นสุดในปี 2577 ส่วนการออกจากแผนฟื้นฟูนั้น จากสถานการณ์ของธุรกิจในปัจจุบันดีกว่าแผนมาก แต่ยังไม่สามารถออกจากแผนฟื้นฟูได้ในทันที ยังคงรอดูผลประกอบการในไตรมาสอื่นๆ ต่อไป ซึ่งคาดว่าจะสามารถออกจากแผนฟื้นฟูได้ไม่เกินปี 2567 อย่างไรก็ดีการบินไทยเตรียมที่จะฟื้นโครงการศูนย์ซ่อมอากาศยาน หรือ MRO ในพื้นที่ EEC โดย อยู่ระหว่างการศึกษากำหนดแนวทาง คาดว่าจะได้ข้อสรุปปลายปีนี้ พร้อมกับมั่นใจว่าการบินไทยมีศักยภาพในการดำเนินการด้วยตัวเอง แต่ก็ไม่ปิดกั้นหากมีเอกชนรายใด สนใจมาร่วมทุน
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี