นายยุทธพร จิตตเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ล็อกซเล่ย์ อีโวลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด หรือ LET เปิดเผยว่า บริษัทถือหุ้นโดยบริษัทล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) หรือ LOXLEY ในสัดส่วน 100% โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้รวมในปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท เติบโต 12% จากปีก่อน เนื่องจากบริษัทมีฐานลูกค้าที่เป็นองค์กรภาครัฐเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และรายได้ทั้งหมดมาจากงานประมูลภาครัฐ

โดยบริษัทมีสัดส่วนรายได้มาจาก 4 กลุ่มงานหลัก ประกอบด้วย 1.กลุ่มงานระบบเทคโนโลยีความมั่นคงเพื่อความปลอดภัยระดับเมืองและเขตชุมชนขนาดใหญ่ (Public Safety) สัดส่วน 70%, 2.กลุ่มงานเทคโนโลยีไร้มนุษย์ควบคุมและระบบบริหารจัดการล้ำอนาคต (Beyond Platform & Unmanned Security) สัดส่วน 10%, 3.กลุ่มงานเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อระบบท่าอากาศยาน (Airport Technology) สัดส่วน 10% และกลุ่มงานเทคโนโลยีขั้นสูง (Special Technology) สัดส่วน 10%

“ในปี 2566 นี้บริษัทวางแผนที่จะปรับสมดุลสัดส่วนของรายได้เดิมจาก B2G (Business to Government) มาเป็น B2B (Business to Business) และ B2C (Business to Customer) มากขึ้น ซึ่งมองว่าตลาด 2 กลุ่มนี้มีมูลค่าตลาดสูงถึง 2,000 ล้านบาท โดยบริษัทคาดการณ์จะมีลูกค้ากลุ่ม B2B และ B2C ไม่น้อยกว่า 300 ราย ภายในปี 2567 และคาดว่าภายใน 5 ปีข้างหน้า บริษัทจะมีรายได้จากกลุ่ม B2B และ B2C ประมาณ 1,000 ล้านบาท และจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดในปีที่ 3 อยู่ที่ประมาณ 12% ของส่วนแบ่งตลาดรวม”นายยุทธพร กล่าว

อย่างไรก็ตามในปี 2566 บริษัทจะใช้งบการตลาดกว่า 10 ล้านบาท ในการสร้างการรับรู้ผ่านโซเชียลมีเดีย และร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์ ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และระบบเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยที่อยู่ในกลุ่มงาน Beyond Platform & Unmanned Security ให้บริการทั้ง 4 แบบ ได้แก่ 1.เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยสำหรับที่พัก 2.เทคโนโลยีป้องกันการโจรกรรมข้อมูลทางไซเบอร์ 3.เทคโนโลยีดูแลและช่วยเหลือสังคมผู้สูงอายุ 4.เทคโนโลยีไร้มนุษย์ควบคุม โดยเป็นการร่วมมือกับพันธมิตร 4 บริษัท ประกอบด้วย 1.บริษัทคลาวด์เซค เอเชีย จำกัด 2.บริษัท ซีที เอเชียโรโบติกส์ จำกัด 3.บริษัท ไอดิโอเทค จำกัด และ4.บริษัท ฮาโก้ อิเลคทริค (ประเทศไทย)

ทั้งนี้ บริษัทจะเปิดโปรดักส์ใหม่อีก 1 บริการในกลุ่มงาน Beyound Platform & Unmanned Security ในชื่อของบริการ “แอดไอดี” หรือ “แอดเดรสไอดี” (AdID) ที่จะเป็นบริการรหัสหกหลักในการควบคุมเรื่องความปลอดภัย โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เช่น ใช้ในการขนส่งสินค้า เพื่อทดแทนแผนที่ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งโปรดักส์นี้บริษัทได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA