ไทยร่วมประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปกปี 2566 หนุนระบบการค้าพหุภาคีภายใต้ WTO ให้ทันปัญหาความท้าทายทั้งความมั่นคงด้านอาหาร การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การปฏิรูป WTO พร้อมย้ำสมาชิกขับเคลื่อนเป้าหมายกรุงเทพฯ ด้าน BCG การทำ FTAAP และช่วย SMEs และสตรี เข้ามามีส่วนร่วมในเอเปก
นายเอกฉัตร ศีตวรรัตน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้เป็นผู้แทนเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปก(Ministers Responsible for Trade Meeting : MRT) ประจำปี 2566 ซึ่งสหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 25-26 พฤษภา 2566 ที่ผ่านมา ณ เมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน
โดยในปี 2566 นี้ ทางสหรัฐอเมริกาได้เน้นถึงความสำคัญในการขับเคลื่อนการค้าและการลงทุนที่ยั่งยืนและครอบคลุม ภายใต้หัวข้อหลักของการเป็นเจ้าภาพเอเปก “สรรค์สร้างอนาคตที่ยืดหยุ่นและยั่งยืน” ซึ่งในที่ประชุมได้มีการแลกเปลี่ยนความเห็น และแนวนโยบายของแต่ละประเทศสมาชิก ที่สามารถจะสนับสนุนในการขับเคลื่อนภูมิภาคได้สอดคล้องกับหัวข้อหลักในประชุมในปี 2566 นี้
ทั้งนี้สหรัฐอเมริกาได้กำหนดหัวข้อการหารือของรัฐมนตรีการค้าเอเปก 2 เรื่องสำคัญ คือ เรื่องแรก การสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคี โดยประเทศไทยได้เน้นย้ำความสำคัญของระบบการค้าพหุภาคีกับองค์การการค้าโลก (WTO) ที่เท่าทันสถานการณ์ปัจจุบันของเศรษฐกิจโลก และสามารถจัดการกับความท้าทายต่างๆ ทั้งความมั่นคงอาหาร การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และการค้าที่ครอบคลุม ซึ่งการปฏิรูป WTO จะเป็นปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ โดยประเทศไทยเรียกร้องให้เอเปกแสดงบทบาทสนับสนุนที่สำคัญในการผลักดันให้การประชุมรัฐมนตรี WTO ครั้งที่ 13 ในปี 2567 ให้สามารถมีผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม
ในขณะเดียวกันประเทศไทยได้รับโอกาสให้นำเสนอตัวอย่างการขับเคลื่อนแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลระหว่างประเทศ (National Digital
Trade Platform : NDTP) ของประเทศไทย ที่สามารถต่อยอดในการขับเคลื่อนเรื่องพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และการค้าไร้กระดาษ ภายใต้กรอบเอเปกและกรอบ WTO ด้วย
สำหรับเรื่องที่ 2 คือ การผลักดันการค้าการลงทุนที่ยั่งยืนและครอบคลุม ประเทศไทยได้เน้นย้ำให้เอเปกสนับสนุนและขับเคลื่อนเป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจบีซีจี ที่เป็นผลลัพธ์สำคัญของการเป็นเจ้าภาพเอเปกของไทยในปี 2565 เพื่อตอบโจทย์สนับสนุนการพัฒนาและเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่มีความยั่งยืนและครอบคลุม ตอบสนองต่อปัญหาสิ่งแวดล้อม และยังสามารถส่งเสริมการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ ไม่ว่าจะเป็นการขับเคลื่อนภายใต้ “เป้าหมายมาโนอา” ที่สหรัฐอเมริการิเริ่มในปี 2566 นี้ หรือภายใต้แผนงาน FTAAP agenda Work Plan ที่ส่งเสริมการบูรณาการทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเปก ผ่านประเด็นการค้าการลงทุนดั้งเดิม และประเด็นการค้าการลงทุนใหม่ๆที่สมาชิกเอเปกให้ความสนใจ และยังได้เน้นย้ำความสำคัญของการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน เช่น SMEs และสตรี เพื่อให้สามารถเข้าสู่ระบบการค้าโลกได้มากขึ้น รวมทั้งให้มีความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคที่เข้มแข็ง
นายเอกฉัตรกล่าวว่า ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2566 (มกราคม-มีนาคม 2566) การค้าของประเทศไทยกับกลุ่มเศรษฐกิจเอเปก มีมูลค่า 99,820 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยประเทศไทยนำเข้าจากกลุ่มเศรษฐกิจเอเปก เป็นมูลค่า 51,370 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และประเทศไทยส่งออกไปกลุ่มเศรษฐกิจเอเปก เป็นมูลค่า 48,450 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี