มาสด้า เดินหน้ารุกตลาดอย่างต่อเนื่อง เผยโฉม New Mazda2 รถธงที่ขายดีที่สุด โดยมีจำหน่ายทั้งหมด 5 รุ่นย่อยมาตรฐาน และมีให้เลือกทั้งหมด 83 แบบ ทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และแฮทช์แบค 5 ประตู ในรุ่น Sport Design และ New Wave Design พร้อมด้วยรุ่นพิเศษ 2 รุ่น Rookie Drive และ Clap Pop ในแบบแฮทช์แบค 5 ประตู โดยเคาะราคาเริ่มต้น 5.99 แสนบาท
Sport Design โดดเด่นด้วยกันชนหน้า พร้อมกระจังหน้าแบบ Mesh Grille ดีไซน์ใหม่ กระจกมองข้างและหลังคาสีดำ มาพร้อมล้อ ขนาด 16 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ ขณะที่ภายใน มอบความสปอร์ตพรีเมียม ด้วยเบาะหนังสีดำสลับกับผ้า Grand Luxe Suede® แบบสปอร์ตดีไซน์ใหม่ พร้อมการตกแต่งสีแดงที่กรอบช่องแอร์ และเบาะนั่งเดินตะเข็บสีแดง เพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่
New Wave Design มาพร้อมกับกันชนหน้า กระจังหน้า และล้อลายใหม่รวมถึงการใช้แผงคอนโซลด้านในหลากสีไม่ว่าจะเป็นสี Pure While สี Mirror Black และ สี Gross Light Blue ที่ถูกจับคู่กับสีภายนอกและดีไซน์ของล้อ อีกทั้งยังเลือกใช้ Bioplastic เป็นส่วนประกอบในการผลิตคอนโซล ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการเลือกใช้ฟิล์มหลังคาที่ผลิตจากวัสดุไวนิล ที่สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการผลิต เมื่อเทียบกับการเคลือบสีแบบทูโทน
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมรุ่นพิเศษ 2 รุ่น ได้แก่ Rookie Drive ที่เพิ่มความแตกต่างโดดเด่นกับดีไซน์ภายนอกไม่ว่าจะเป็น กระจังหน้าดีไซน์ใหม่สีขาว หลังคาสีขาว หรือ สีดำ ที่ออกแบบแตกต่างตามสีภายนอก พร้อมการตกแต่งด้วยสีส้ม Racing Orange บนชุดสปอยเลอร์หลัง ชุดครอบกระจกมองข้างคิ้วตกแต่งกันชนหน้า และกันชนหลัง รวมถึงฝาครอบล้อ พร้อมชุดสติ๊กเกอร์ตกแต่งดีไซน์พิเศษ
และรุ่น Clap Pop ที่เพิ่มความสปอร์ตสุดคูล กับกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ มาพร้อมกระจกมองข้างและฝาครอบล้อสีขาว Ceramic Metallic กระจังหน้าสีขาว และหลังคาสีขาว พร้อมชุดสติ๊กเกอร์ตกแต่ง ดีไซน์พิเศษ Clap Pop ตอบโจทย์ลูกค้ารุ่นใหม่ ที่ต้องการรถที่ถ่ายทอดบุคลิกที่แตกต่างไม่ซ้ำใคร
เครื่องยนต์ มีให้เลือก 2 ชนิด ได้แก่ เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร (SKYACTIV-G) และเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 1.5 ลิตร (SKYACTIV-D) พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟไดรฟ์ 6 สปีด พร้อมแมนนวลโหมด Activematic รวมถึงมีระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง (GVC Plus) ที่ช่วยควบคุมสมรรถนะในการขับขี่ให้แม่นยํา และสมดุล เพื่อให้ผู้ขับรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับรถอย่างสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ตั้งแต่ก่อนเข้าโค้ง ในโค้ง และนอกโค้ง เพื่อมอบความปลอดภัยและความสะดวกสบายให้ผู้โดยสารทุกตำแหน่ง
นอกเหนือจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Mazda Connect รองรับ Wireless Apple CarPlay® และ Android AutoTM ผ่านหน้าจอ Center Display แบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว ควบคุมด้วย Center Commander พร้อมอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย ระบบควบคุมความเร็วคงที่ และเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง 2 ตำแหน่ง
ด้านความปลอดภัยมีให้พร้อมสรรพรวมถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยเชิงป้องกัน i-Activsense อาทิ ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance ระบบช่วยประหยัดน้ำมัน i-STOP และระบบประหยัดพลังงาน i-ELOOP ระบบควบคุมการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง GVC Plus ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LEDและปรับระดับแบบอัตโนมัติ และกระจกหน้าแบบลดเสียงรบกวน ซึ่งจะมีในทุกรุ่นย่อย
นอกจากนี้ ยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Keyless Entry) ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360 View Monitor) ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน (LDWS) ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (HBC) ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ (SBS) ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (ABSM) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (MRCC) เป็นต้น
New Mazda2 มีให้เลือก9 สี รวมถึง 2 เฉดสีใหม่ ได้แก่ สีเทาแอโร เกรย์ และ สีฟ้า แอร์ สตรีม บลู และเพิ่ม “สีน้ำเงิน ดีพ คริสตัล บลู”ในรุ่นพิเศษ Clap Pop
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี