นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายพัฒนากลยุทธ์องค์กร และการพัฒนาธุรกิจใหม่ บริษัทสามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAMART เปิดเผยว่า กลุ่มสามารถได้เดินหน้าขยายการลงทุนธุรกิจการบินในกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง ผ่านการดำเนินงานของบริษัท สามารถ เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAV ที่ถือหุ้น 100% โดย SAV นั้น เป็นผู้ได้ที่รับสัมปทานด้านการให้บริการวิทยุการบินแบบครบวงจรในกัมพูชาเพียงรายเดียว ซึ่งล่าสุดได้รับการขยายสัมปทานต่อไปอีก 10 ปี รวมเป็น 49 ปี   

อย่างไรก็ตามในปี 2566 นี้มีแผนลงทุนเทคโนโลยีบริหารจัดการการบิน อาทิ ระบบการสื่อสาร ระบบนำทาง ระบบติดตามเครื่องบินและความปลอดภัย รวมถึงระบบบริหารจัดการการจราจรทางอากาศ ที่สนามบินนานาชาติเสียมเรียบ และสนามบินเกาะกง ภายใต้งบลงทุน 10 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 340 ล้านบาท

นายธีระชัย พงศ์พนางาม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ SAV กล่าวว่า อุตสาหกรรมการบินในกัมพูชากำลังขยายตัวต่อเนื่อง โดยมีการลงทุนสนามบินนานาชาติใหม่ถึง 3 แห่ง เพื่อรองรับนักเดินทางที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบด้วย 1.สนามบินพนมเปญ แห่งใหม่ ในเฟสแรก รองรับนักเดินทาง 10 ล้านคน, 2.สนามบินนานาชาติเสียมเรียบแห่งใหม่ รองรับนักเดินทาง 8 ล้านคน ในเฟสแรก และจะขยายเป็น 20 ล้านคน ในอนาคตและ 3.สนามบินนานาชาติดาราสาคร(เกาะกง) ซึ่งเป็นสนามบินแห่งใหม่ที่เปิดบริการปลายปี 2566 นี้ สามารถรองรับการท่องเที่ยวของกัมพูชาในอนาคตได้มากขึ้น

ในขณะที่บริษัทวิจัยนานาชาติได้คาดการณ์ว่าในปี 2567 จำนวนนักเดินทางที่เข้า-ออกกัมพูชาจะเพิ่มขึ้นมากกว่าในช่วงโควิด-19 อย่างแน่นอน และจำนวนเที่ยวบินในกัมพูชาจะเพิ่มขึ้นเป็น 134,000 เที่ยวบิน ขณะที่ในปี 2566 นี้ คาดว่าจะมีเที่ยวบินในกัมพูชาจำนวน 100,000 เที่ยวบิน ทั้งนี้เป็นผลมาจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ โดยเฉพาะจากประเทศจีนที่คาดว่าจะกลับเข้ามาอย่างชัดเจนในช่วงต้นปี 2567

นายธีระชัย กล่าวว่า จุดแข็งของ SAV คือ การเป็นผู้ให้บริการด้านวิทยุการบินอย่างครบวงจรในกัมพูชาเพียงรายเดียว โดยมีอายุสัมปทานเหลืออีกถึง 29 ปี ที่สามารถเจรจาขยายอายุสัมปทานการให้บริการได้เพิ่มอีกในอนาคต ซึ่งธุรกิจวิทยุการบินให้ผลตอบแทนที่สูง ที่สำคัญคือไม่มีคู่แข่ง ดังนั้น SAV จึงมีรายได้ประจำทุกเที่ยวบินที่ขึ้น-ลงในกัมพูชา และมีรายได้จากทุกเที่ยวบินที่บินผ่านน่านฟ้าของกัมพูชา ในขณะที่การขยายตัวของเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกัมพูชาและอาเซียนก็มีแนวโน้มการเติบโตสูง

ทั้งนี้ SAV เป็นโฮลดิ้ง คอมพานีที่ให้บริการวิทยุการบินครบวงจร ผ่านบริษัทแคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส จำกัด (CATS) ที่ SAV ถือหุ้น 100% โดย CATS เป็นผู้ให้บริการรายเดียวที่ได้รับสัมปทานจากรัฐบาลกัมพูชาตั้งแต่ปี 2545-2594 ในการบริหารจัดการจราจรทางอากาศ ครอบคลุมเส้นทางการบินทั้งหมดของน่านฟ้ากัมพูชา 

โดยรายได้หลักของ CATS มาจากการบริการควบคุมการจราจรทางอากาศ 3 ประเภท คือ 1. รายได้จากค่าบริการเที่ยวบินขึ้น-ลงในประเทศ, 2.เที่ยวบินขึ้นลงระหว่างประเทศและ 3.รายได้จากค่าบริการเที่ยวบินที่บินผ่านน่านฟ้ากัมพูชา ซึ่งปัจจุบันมีสนามบินในกัมพูชา 6 แห่ง คือสนามบินนานาชาติพนมเปญ สนามบินนานาชาติเสียมเรียบ สนามบินนานาชาติสีหนุ สนามบินพระตะบอง สนามบินเกาะกง และสนามบินสตึงเตรง ทั้งนี้ในปี 2565 ที่ผ่านมา SAV มีรายได้รวม 1,220 ล้านบาท จากเดิมปี 2564 ที่ผ่านมามีรายได้ 761 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 199.5 ล้านบาท คาดว่าในปี 2566 นี้จะมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 40-50% 

นายธีระชัย กล่าวว่า ภายในไตรมาส 3 ปี 2566 นี้ SAV เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม-ต้นเดือนกันยายน 2566 หลังจากยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

ทั้งนี้ SAV จะเสนอขายหุ้นสามัญไม่เกิน 224,000,000 หุ้น หรือไม่เกิน 35% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO แบ่งเป็นหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 64,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 10% และหุ้นสามัญเดิมและจัดสรรหุ้นส่วนเกิน จำนวนไม่เกิน 30% มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาทต่อหุ้น เพื่อระดมทุนรองรับการขยายธุรกิจ และรองรับโอกาสการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต และชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน