นายสุรศักดิ์ เอิบสิริสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัทสหมิตรถังแก๊สหรือSMPC เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก เพราะคำสั่งซื้อจากลูกค้าต่างประเทศทยอยกลับเข้ามามากขึ้น ยอดขายน่าจะทำได้ตามแผนโดยไตรมาส 3 - ไตรมาส 4ออเดอร์เริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติจาก Backlog ที่มีอยู่ออเดอร์บางรายยาวไปถึงปีหน้าและเข้าประมูลงานใหม่เพิ่ม เป้าหมายยอดขายถังแก๊สน่าจะทำได้ 7.5 ล้านใบ แม้ครึ่งปีแรกจะทำได้เพียง 2.8 ล้านใบ ประกอบกับราคาเหล็กทรงตัวต่อเนื่องมา 2 ไตรมาสแล้วค่าเงินบาทอยู่ในระดับที่เหมาะสม ค่าขนส่งกลับสู่ภาวะปกติ บริษัทได้ขอใบอนุญาตผลิตถังอลูมิเนียมผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมาร์จิ้นสูงเชื่อว่าจะช่วยให้ยอดขายเป็นไปตามแผน

ผลประกอบการ งวดไตรมาส 2/2566 มียอดขาย 1,127.83 ล้านบาท ลดลง 267.85 ล้านบาท หรือ 19.2% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 1,395.68 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 135.42 ล้านบาท ลดลง 106.22 ล้านบาทหรือลดลง 44% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 241.64 ล้านบาท สาเหตุที่รายได้และกำไรลดลง เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลงทำให้มีการปรับราคาขายลดลงประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโลกหดตัวทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคาสูง

บริษัทได้เร่งปรับนโยบายและกลยุทธ์ในการขายเน้นเพิ่มการขายผลิตภัณฑ์ถังความดันต่ำประเภทอื่นๆ เพิ่มเติมจากถังแก๊สสำหรับใช้ตามครัวเรือนที่เป็นผลิตภัณฑ์หลักเพื่อเพิ่มอัตราการทำกำไร รวมทั้งเร่งเข้าไปทำตลาดในภูมิภาคที่หลากหลายทำให้คำสั่งซื้อเริ่มกลับเข้ามาเป็นปกติ

ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ในอัตราหุ้น 0.21 บาทต่อหุ้น กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ์ได้รับเงินปันผลวันที่ 24 สิงหาคม 2566 จ่ายปันผล