นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) แจ้งว่าเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม2566 กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนามได้ประกาศผลชั้นที่สุดในการทบทวนอัตราอากรตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนน้ำตาล ที่มีแหล่งกำเนิดจากไทย โดยอัตราอากร
ตอบโต้การทุ่มตลาด (AD) และอัตราอากรตอบโต้การอุดหนุน (CVD) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยผลักดันการส่งออกน้ำตาล
เวียดนามเริ่มเรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนสินค้าน้ำตาล ที่มีแหล่งกำเนิดจากไทยตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2564 โดยมีกำหนด 5 ปี เนื่องจากพบหลักฐานว่าน้ำตาลจากไทยมีพฤติกรรมทุ่มตลาด รวมถึงได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาลไทย อันเป็นเหตุให้อุตสาหกรรมน้ำตาลของเวียดนามได้รับความเสียหายการเรียกเก็บอากร AD และ CVD ส่งผลให้น้ำตาลไทยที่ส่งออกไปเวียดนามต้องเผชิญภาระอากรรวมกันในอัตราที่สูงถึง 47.65%
โดยการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ผู้ส่งออกได้มีการหารือ คต. ถึงแนวทางแก้ไขปัญหาซึ่ง คต. ได้มีคำแนะนำให้ยื่นขอทบทวนอัตราอากร รวมถึงให้คำปรึกษาในประเด็นต่างๆ ตลอดจนมีหนังสือโต้แย้งร่างผลการทบทวน ส่งผลให้กลุ่มน้ำตาลมิตรผลได้รับการปรับลดอัตราอากร AD มาอยู่ที่ 32.75% และอากร CVD มาอยู่ที่ 0% สำหรับกลุ่มไทยรุ่งเรืองได้รับการปรับลดอัตราอากร AD มาอยู่ที่ 25.73%ขณะที่อากร CVD ยังคงเดิมที่ 4.65 ซึ่งต่ำกว่าอัตราที่ประกาศในร่างผลการทบทวน
คต. มั่นใจว่าการปรับลดอัตราอากร ADและ CVD สินค้าน้ำตาลจากไทยของเวียดนามในครั้งนี้เป็นปัจจัยส่งเสริมการส่งออกน้ำตาล ไทยมีการส่งออกน้ำตาลไปเวียดนามในปี 2565 อยู่ที่ 114,000 ตัน และใน 6 เดือนแรกของปี 2566 อยู่ที่ 38,000 ตัน แม้จะคิดเป็นเพียง1% ของปริมาณส่งออกรวมของไทยในช่วงเวลาดังกล่าว หากแต่เวียดนามถือเป็นตลาดส่งออกน้ำตาลที่มีศักยภาพ โดยในปี 2563 ซึ่งเป็นปีก่อนที่จะมีการเรียกเก็บอากร AD และ CVD ปริมาณส่งออกน้ำตาลไปเวียดนามเคยไปแตะที่ระดับ 1.26 ล้านตัน คิดเป็น 23.59% ของปริมาณส่งออกรวมของไทย ดังนั้น การที่กลุ่มน้ำตาลมิตรผลและกลุ่มไทยรุ่งเรืองได้รับการปรับลดอัตราอากร AD และ CVD ลงมาอย่างมีนัยสำคัญย่อมเพิ่มขีดความสามารถในการส่งออกของไทยในตลาดเวียดนาม และเป็นผลบวกต่อการส่งออกน้ำตาลในภาพรวม
“จากภาวะตึงตัวของอุปทานและการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ตามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจรวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันกลับมาใช้น้ำตาลซึ่งเป็นสารให้ความหวานตามธรรมชาติแทนสารแอสปาร์แตม ส่งผลให้ราคาน้ำตาลในตลาดโลกดีดตัวสูงขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก หากแต่การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของอ้อย ทำให้ผลผลิตน้ำตาลออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องไม่เกิดภาวะขาดแคลนตามที่มีการคาดการณ์ไว้ผู้ผลิตน้ำตาลต่างเร่งส่งออกเพื่อระบายน้ำตาลสู่ตลาด ทำให้ราคาน้ำตาลในตลาดโลกลดต่ำลงในสถานการณ์ปัจจุบันผู้ส่งออกน้ำตาลของไทยเผชิญแรงกดดันด้านราคา การลดลงของภาระอากร AD และ CVD ย่อมช่วยบรรเทาความเสียเปรียบในการแข่งขันของน้ำตาลไทยในตลาดเวียดนาม จึงมั่นใจได้ว่าจะสามารถขยายปริมาณส่งออกน้ำตาลไปตลาดเวียดนามได้อย่างแน่นอน” นายรณรงค์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี