นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้วิเคราะห์แนวโน้มธุรกิจที่มีศักยภาพ หลังจากพ้นสถานการณ์โควิด-19 โดยพบว่าธุรกิจโรงแรมและที่พัก มีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างเด่นชัด อัตราการเติบโตของธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด ซึ่งในช่วง 7 เดือนของปี 2566 มีนิติบุคคลตั้งใหม่ 546 ราย เพิ่มขึ้น 51%
โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไทย และกฎหมายเอื้ออำนวยให้สามารถนำอาคาร ห้องแถว ตึกแถว หรือโฮมสเตย์มาใช้ประกอบกิจการโรงแรมได้ ทำให้เกิดนักธุรกิจหน้าใหม่ที่ให้บริการโรงแรมและที่พักมีจำนวนมากขึ้น ราคาที่พักมีความหลากหลาย และยังเกิดรูปแบบใหม่ในการให้บริการที่เป็นเอกลักษณ์ของที่พักในแต่ละท้องถิ่น ช่วยดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาใช้บริการมากขึ้น
“ธุรกิจโรงแรมและที่พักยังเป็นธุรกิจแห่งโอกาสของไทย จากการที่ธุรกิจท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างก้าวกระโดดส่งผลเชิงบวกต่อธุรกิจ โดยผู้ประกอบธุรกิจจะต้องปรับตัวในการพัฒนารูปแบบการให้บริการที่มุ่งเน้นมาตรฐานตามหลักสากล การนำเทคโนโลยีมาช่วยในการนำเสนอธุรกิจที่อยู่ในท้องถิ่นให้เข้าถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือการจองที่พักที่สะดวกสบายง่ายขึ้น ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเติบโตได้ต่อไป”นายทศพล กล่าว
สำหรับธุรกิจโรงแรมและที่พักในไทยที่จดทะเบียนในรูปแบบนิติบุคคลมี 12,826 ราย คิดเป็น 1.45% ของธุรกิจทั้งหมด มีมูลค่าทุน 608,777 ล้านบาท คิดเป็น 2.86% ของธุรกิจทั้งหมด หรือ 21.47ล้านล้านบาท ส่วนใหญ่ดำเนินธุรกิจรูปแบบบริษัทจำกัด 11,359 ราย คิดเป็น 88.56% มูลค่าทุน 574,720 ล้านบาท โดยเป็นธุรกิจขนาดเล็ก (S) ถึง 12,190 รายคิดเป็น 95.04% นอกนั้นเป็นขนาดกลาง (M) 514 รายคิดเป็น 4.01% และขนาดใหญ่ (L) 122 รายคิดเป็น 0.95%
โดยหากวิเคราะห์ลึกไปถึงข้อมูลงบการเงิน จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ระบุได้ว่าธุรกิจโรงแรมและที่พัก สามารถปรับตัวเดินต่อได้ เพราะรายได้รวมในปีงบการเงิน 2565 เพิ่มขึ้น 103,491 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น107% และเมื่อพิจารณากำไรขาดทุน พบว่ายังมีการขาดทุน 24,162 ล้านบาท ซึ่งเป็นปัจจัยปกติที่มีผลจากการเผชิญวิกฤตในช่วงที่ผ่านมา แต่ประเด็นสำคัญคือการขาดทุนที่ลดลงกว่า 60.47% จากปีก่อน เป็นสัญญาณที่ดี บ่งบอกถึงการเติบโตของธุรกิจโรงแรมและที่พักในไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี