“นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า หรือเอ็กโก กรุ๊ปเปิดเผยว่า เอ็กโก กรุ๊ป มุ่งมั่นแสวงหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าและธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่องอย่างไม่หยุดยั้งโดยการลงทุนในครึ่งหลังของปีนี้จะขับเคลื่อนภายใต้กลยุทธ์ระยะสั้น “4S” ที่เน้นการสร้างรายได้อย่างรวดเร็วและเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเลือกลงทุนในโครงการที่มีคุณภาพสูง (Select high quality projects) ในรูปแบบ M&A ทั้งโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงหลัก (Conventional) อย่างก๊าซธรรมชาติ และพลังงานหมุนเวียน (Renewable) ที่จะช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมพลังงาน เพื่อรับรู้รายได้ทันที โดยมีความได้เปรียบจากการมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งใน 8 ประเทศ ที่มีฐานทางธุรกิจอยู่แล้ว
สำหรับระยะกลางถึงระยะยาว เอ็กโก กรุ๊ป ได้วางแผนการลงทุนในธุรกิจพลังงานแห่งอนาคตอย่างซัพพลายเชนไฮโดรเจน ที่มีศักยภาพรองรับการเปลี่ยนผ่านจากพลังงานฟอสซิลไปสู่พลังงานสีเขียว โดยร่วมมือกับพันธมิตรหลายแห่งเพื่อศึกษาเทคโนโลยีใหม่ๆ และความเป็นไปได้ในการลงทุน เช่น การพัฒนาและใช้ประโยชน์จากก๊าซไฮโดรเจนสำหรับการผลิตไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยคาร์บอน การพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับซัพพลายเชนไฮโดรเจน ตลอดจนการผลิตกรีนไฮโดรเจนจากโรงไฟฟ้าโบโค ร็อค วินด์ฟาร์ม ของเอ็กโก
กรุ๊ป ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ออสเตรเลียซึ่งเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงในการพัฒนาอุตสาหกรรมกรีนไฮโดรเจน เป็นต้น
ด้านการขับเคลื่อนสู่สังคมคาร์บอนต่ำเนื่องจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรงขึ้น เอ็กโกกรุ๊ป ได้ปรับเป้าหมายใหม่ที่ท้าทายและเข้มข้นกว่าเดิม เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและเป็นไปในทิศทางเดียวกับบริษัทชั้นนำของโลก โดยขยับเป้าหมายการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ให้เร็วขึ้นกว่าเดิม 10 ปี เป็น 2040 เพิ่มเป้าหมายใหม่ คือ การบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 เนื่องจากเล็งเห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีด้านการผลิตไฟฟ้าและ
พลังงานใหม่ๆ ที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว เป้าหมายใหม่นี้จะช่วยสนับสนุนทิศทางการดำเนินธุรกิจและการลงทุนของเอ็กโก กรุ๊ป ให้สอดคล้องกับทิศทางของอุตสาหกรรมพลังงานในระดับสากล รวมถึงความต้องการไฟฟ้าในช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด
การลงทุนสำคัญที่ช่วยส่งเสริมให้เอ็กโกกรุ๊ป มุ่งสู่การบรรลุ Net Zero 2050 ได้ตามแผน คือ การลงทุนในเอเพ็กซ์ ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการลงทุนที่มีศักยภาพและช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้เอ็กโก กรุ๊ป ในระยะยาว เนื่องจากเอเพ็กซ์จะช่วยเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และสร้างโอกาสทางธุรกิจด้วยโมเดลการดำเนินงานในรูปแบบไฮบริด คือ การพัฒนาโครงการเพื่อเดินเครื่องเชิงพาณิชย์เอง และจำหน่ายโครงการออกไป โดยในปี 2023 เอเพ็กซ์ มีโครงการที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว 2 โครงการ กำลังผลิตรวม 294 เมกะวัตต์ และโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 5 โครงการ กำลังผลิตรวม 657 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทยอยแล้วเสร็จระหว่างปี 2023-2025 แบ่งเป็น โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ 2 โครงการ ในรัฐเท็กซัส โครงการพลังงานลม 1 โครงการ ในรัฐเมน และโครงการระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ 2 โครงการ ในรัฐเท็กซัส ในขณะเดียวกัน ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีกจำนวนมากถึง 242 โครงการ กำลังผลิตรวม 53,767 เมกะวัตต์
ผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2023 เอ็กโก กรุ๊ปมีกำไรสุทธิ 3,482 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% โดยช่วงครึ่งปีแรก ยังคงสามารถบริหารจัดการพอร์ตโฟลิโอโรงไฟฟ้าและต้นทุนเชื้อเพลิงของโรงไฟฟ้าทุกแห่งอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ สามารถสร้างรายได้จากการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นรวมทั้งความสามารถในการบริหารจัดการโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างให้เป็นไปตามแผนงาน เช่น โครงการโรงไฟฟ้าหยุนหลิน ในไต้หวัน ที่มีความคืบหน้าในการก่อสร้างได้ตามแผนงาน โดยปัจจุบัน (ณ วันที่ 25 สิงหาคม 2023) ติดตั้งเสากังหัน (Monopiles) แล้วเสร็จ 39 ต้น และติดตั้งเครื่องผลิตไฟฟ้าจากใบพัดกังหัน (Wind Turbine Generators) ที่สามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้ว 22 ต้น
“ผลประกอบการในปี 2023 คาดว่าจะได้รับปัจจัยบวกจากการรู้รายได้แบบเต็มปีของโรงไฟฟ้าน้ำเทิน 1 ใน สปป.ลาว รวมถึงการรับรู้รายได้แบบเต็มปีจากโรงไฟฟ้าไรเซ็กในสหรัฐอเมริกา และโครงการโรงไฟฟ้าหยุนหลิน ในไต้หวัน ที่สามารถทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเมื่อติดตั้งเครื่องผลิตไฟฟ้าจากใบพัดกังหันแล้วเสร็จ รวมทั้งโครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (TPN) ที่คาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2023 เป็นต้นไป ความก้าวหน้าในการดำเนินงานทั้งหมดนี้จะช่วยสนับสนุนพันธกิจหลักของบริษัทคือ การมุ่งมั่นเติบโตอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืน” นายเทพรัตน์ กล่าวสรุป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี