nn จำได้ว่าก่อนหน้านี้ 2-3 เดือน...ภาคเอกชน...ร้องขออยากให้มาจัดตั้งรัฐบาลใหม่ให้ได้ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลที่มาจากสายพันธ์ุไหนจะเป็นรัฐบาลลูกผสมแบบไหนก็ได้...เพราะเชื่อว่าจะเข้ามาผลักดันนโยบายและแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ซบเซาอยู่ตอนนี้ได้...แถมยังเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ตามเป้าที่ 3-3.5%

แต่มาถึงนาทีนี้จากการประชุมร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.)(สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย)...กลับปรับลดประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจมาอยู่ที่2.5-3.0% จากเดิมประมาณการไว้ 3-3.5%...เหตุผลก็เพราะว่าเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้และจุดเปราะบางสำคัญคือการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน...ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เป็นแรงกดดันและส่งผลให้ภาคการส่งออกของไทยยากที่จะกลับมาฟื้นตัวจากการติดลบต่อเนื่องยาวนานติดต่อกันมาแล้ว10 เดือน...เพราะต้องยอมรับว่าจีนคือตลาดส่งออกสำคัญของสินค้าไทย

อีกประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับภาวะเศรษฐกิจจีนคือ เมื่อเศรษฐกิจของจีนกำลังซบเซาทำให้กำลังซื้อในประเทศจีนลดลงส่งผลให้สินค้าที่ผลิตในจีนล้นตลาด...ทำให้สินค้าเหล่านี้โดยเฉพาะสินค้าราคาถูกที่ไม่ได้มาตรฐานทะลักเข้ามาแข่งขันด้านราคาในตลาดไทย...พูดให้ชัดก็คือเข้ามาทุ่มตลาดในไทยนั่นเอง...และขณะนี้พบว่ามี 20 กลุ่มอุตสาหกรรมของไทยมียอดขายลดลง...ผลที่ตามมาก็คือภาคการผลิตของไทยก็ต้องประสบปัญหาแน่นอน และเมื่อภาคการผลิตมีปัญหาก็หนีไม่พ้นกระทบต่อเรื่องการจ้างงานและรายได้ของแรงงานในภาคการผลิต

ส่วนภาคการส่งออกซึ่งเป็นอีกเครื่องยนต์สำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย...ณ นาทีนี้แม้ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นตามลำดับแต่ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นคือ...รายได้จากการท่องเที่ยวยังต่ำกว่าที่คาดเนื่องจากการใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติยังต่ำกว่าปกติอยู่ราว 13% และค่าใช้จ่ายต่อคนต่อทริป ของคนไทยในการเที่ยวในประเทศต่ำกว่าปกติราว 33% ...ซึ่งอันนี้ไม่แปลกใจเพราะทุกคนในโลกใบนี้รายได้ลดลง อันเนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ยังซบเซาและบาดเจ็บมาตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19

ประเด็นของ...เศรษฐศาสตร์วันหยุด...ในคอลัมน์นี้คือ...ยังไม่เห็นแนวทางอันชาญฉลาดที่แก้ไขปัญหาใหญ่ของภาคการส่งออกได้อย่ารวดเร็ว...คุณภูมิธรรม เวชยชัย รมว.พาณิชย์ เข้ากระทรวงวันแรก(7ก.ย.) และให้สัมภาษณ์ก็แสดงให้เห็นว่ายังไม่มีอะไรในหัวที่จะมาช่วยฟื้นการส่งออกของไทยได้ในเร็ววัน...ขณะที่ปัญหาหนักหน่วงแต่กว่าจะเริ่มนับหนึ่งได้ ก็ต้องรอประชุมกับผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์อย่างเป็นทางการในวันที่ 14 กันยายนนี้เสียก่อน...แสดงว่าก่อนมารับตำแหน่งไม่มีอะไรเกี่ยวกับเรื่องการส่งออกติดสมองมาเลย...เรื่องที่จะใช้ทูตพาณิชย์...รมว.พาณิชย์คนก่อนก็ใช้เครื่องนี้มานาน 4 ปีเต็มๆ...การส่งออกไทยก็ยังเป็นแบบนี้...แข่งขันกับคนด้วยศักยภาพของตัวเองไม่ได้...ต้องหวังพึ่งแต่ค่าเงินเพื่อกดราคาสู้...

ส่วนรมว.อุตสาหกรรม...ก็ให้ข่าวยาวเหยียดแต่เป็นเรื่องนามธรรมล้วนๆไม่มีมาตรการอะไรจับต้องได้เลย ซ้ำก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่รัฐบาลเก่าพูดไว้มานานกว่า 8-9 ปี...
ส่วนเครื่องยนต์สำคัญในเรื่องการท่องเที่ยว...รมว.ท่องเที่ยวฯคนใหม่...ก็ยังไม่ได้แสดงกึ๋นอะไรออกมาให้เห็นว่า...จะทำอย่างไรให้เม็ดเงินจากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นทำอย่างไรให้ค่าใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติต่อคนต่อทริปเพิ่มขึ้น...ส่วนรมว.คลัง..คนใหม่...นอกจากยังไม่รู้ว่าจะเข้ากระทรวงวันไหน...ตอนนี้ก็เห็นแต่จะทำเรื่อง...เฮลิคอปเตอร์มันนี่...(ดิจิทัวอลเล็ต)...ซึ่งอันนั้นนักการคลังทั่วโลกรู้ดีว่า...รัฐมนตรีคลังที่ดีเขาไม่ทำกัน....nn

!! แบบนี้ใช่ไหมคือรัฐบาลที่ภาคเอกชนอยากได้...ทีมเศรษฐกิจแบบนี้หรือเปล่าที่ภาคเอกชนฝันถึง...????

พงษ์พันธุ์