วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
เศรษฐศาสตร์วันหยุด : อย่าดูเบา..ปัญหาบุหรี่เถื่อน

เศรษฐศาสตร์วันหยุด : อย่าดูเบา..ปัญหาบุหรี่เถื่อน

วันอาทิตย์ ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2566, 06.00 น.
Tag : เศรษฐศาสตร์วันหยุด ข่าวเศรษฐกิจ เศรษฐกิจไทย
  •  

nn เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาการยาสูบแห่งประเทศไทย ประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีกแนะนำของบุหรี่หลายตราอย่างเป็นทางการ พร้อมๆ กับประกาศตัวเลขบุหรี่เถื่อนล่าสุดไตรมาสที่ 2 ปี 2566 ที่ทำเอาระดับบิ๊กหลายคนว้าวุ่นเพราะเป็นสถิติสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยสัดส่วนการบริโภคบุหรี่เถื่อนทะลุร้อยละ 22 ของการบริโภคบุหรี่ในประเทศแล้ว มากกว่าตัวเลขที่เพิ่มสูงขึ้นคือผลการสำรวจที่ระบุว่าบุหรี่เถื่อนไม่ได้ระบาดในวงจำกัดแค่พื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะในจังหวัดสตูล พัทลุง และสงขลา แบบเดิม แต่กระจายสู่หัวเมืองใหญ่ที่เป็นพื้นที่เศรษฐกิจอย่าง นนทบุรี กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ ซึ่งในจังหวัดเหล่านี้มีอัตราการเติบโตของบุหรี่เถื่อนเพิ่มมากขึ้นกว่าเท่าตัว

ฝั่งผู้สูบบุหรี่เดือดร้อนเพราะราคาบุหรี่แพงแซงค่าข้าวไปแล้ว รัฐวิสาหกิจอย่างการยาสูบฯ เองก็คงนั่งไม่ติดเพราะต้องแบกรับภาระภาษีไว้อย่างต่อเนื่อง และจะทำกำไรได้อย่างไรเพราะจากที่เคยขายซองละ 40 บาท ในปี 2560 แต่ปัจจุบันกลับต้องปรับราคาบุหรี่กลุ่มราคาประหยัดมาขายที่ 67-70 บาท จากผลของการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตยาสูบและภาษีอื่นๆ แบบสุดโต่งถึง 2 ครั้ง ในปี 2560 และปี 2564 ทั้งๆ ที่กำลังซื้ออ่อนแอจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด หมดหนทางที่จะแข่งขันกับบุหรี่เถื่อนที่ขายกันเกลื่อนเพียงซองละ 20-30 บาท เท่านั้นบุหรี่เถื่อนนอกจากจะสร้างความเสียหายแก่รัฐวิสาหกิจเก่าแก่อย่างการยาสูบฯผลกำไรเข้าขั้นวิกฤตวูบจากหลักหลายพันล้านเหลือแค่ร้อยล้านบาทในปีล่าสุดแล้ว ยังทำให้รัฐสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษีกว่า 2 หมื่นล้านบาทต่อปี โดยเป็นการสูญเสียรายได้สรรพสามิตปีละกว่า 1.5 หมื่นล้านบาทต่อปี จำนวนเงินถือว่าไม่น้อย น่าจะเอามาพัฒนาระบบเศรษฐกิจและลดความเหลื่อมล้ำของประเทศตามนโยบายรัฐบาลใหม่ได้มากอยู่


เห็นทีกระทรวงการคลังภายใต้หัวเรือใหม่อย่างนายกฯเศรษฐา ทวีสิน และนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยคลัง ที่จะมากำกับดูแลกรมสรรพสามิตและการยาสูบฯ คงต้องมองปัญหาให้รอบด้าน เพราะภาคใต้ไม่ได้มีแค่ภูเก็ต พังงา กระบี่ และทะเลอันดามัน ยังมีอีกหลายจังหวัดที่ได้รับความเดือดร้อนจากการคอร์รัปชั่น กลายเป็นศูนย์กลางของเถื่อน ไม่ว่าจะเป็นเหล้าเถื่อน น้ำมันเถื่อน หรือบุหรี่เถื่อน ที่ต้องการการปราบปรามอย่างจริงจังก่อนจะสร้างความเดือดร้อนไปทั่วประเทศแบบบุหรี่เถื่อนในปัจจุบัน

นอกจากการปราบปรามบุหรี่เถื่อนอย่างจริงจังมากขึ้นแล้ว หนึ่งในนโยบายที่สำคัญที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาบุหรี่เถื่อนได้คือเรื่องนโยบายภาษียาสูบ เรื่องนี้ค้างคามาตั้งแต่ปี 2564 ที่มีการปรับโครงสร้างภาษียาสูบครั้งใหญ่ แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็ยังมีแต่ด้านลบ ของเถื่อนเพิ่มขึ้นรายได้ภาษีลดลงเรื่อยๆ และการยาสูบฯ มีแต่ทรุดลง คงต้องฝากความหวังไว้ที่ ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต เร่งทบทวนนโยบายการปรับขึ้นภาษียาสูบแบบสุดโต่ง หาอัตราภาษีที่เหมาะสมไม่ให้สูงเกินไปจนทำให้การลักลอบบุหรี่หนีภาษีจากประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งทบทวนการใช้โครงสร้างบุหรี่ 2 อัตราเป็นอัตราเดียวอย่างที่ประกาศไว้โดยเร็วหากยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว กรมสรรพสามิตและการยาสูบฯ คงต้องตกที่นั่งลำบาก ภาษียาสูบที่เคยติดท็อป 5นับวันคงมีแต่น้อยลงเรื่อยๆ...ที่สำคัญคือต้องลองตรวจสอบในแต่ละพื้นที่ด้วยว่าเหตุไฉนจึงปล่อยให้มีร้านค้าบุหรี่เถื่อนขายกันได้แบบไม่กลัวกฎหมาย ชาวบ้านรู้กันทั้งจังหวัด แต่เจ้าหน้าที่กลับไม่พบการกระทำผิดเลย…nn

พงษ์พันธุ์

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • เศรษฐศาสตร์วันหยุด : ไม่ต้องกลัวเหล็กขาดแคลน  หลังยกเลิก มอก.เหล็กเตาIF เศรษฐศาสตร์วันหยุด : ไม่ต้องกลัวเหล็กขาดแคลน หลังยกเลิก มอก.เหล็กเตาIF
  • คลังเร่งหามาตรการเสริมพยุงจีดีพีไม่ให้ต่ำกว่า 3% คลังเร่งหามาตรการเสริมพยุงจีดีพีไม่ให้ต่ำกว่า 3%
  • จับตาสงครามการค้าสหรัฐ-จีนกระทบเศรษฐกิจไทย จับตาสงครามการค้าสหรัฐ-จีนกระทบเศรษฐกิจไทย
  • เศรษฐศาสตร์วันหยุด : ยกเลิก มอก.เหล็กเตาIF  ต้องเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เศรษฐศาสตร์วันหยุด : ยกเลิก มอก.เหล็กเตาIF ต้องเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
  • เศรษฐศาสตร์วันหยุด : เหล็กจีนจากเตาIF  รัฐบาลควรตระหนักและทบทวนได้แล้ว เศรษฐศาสตร์วันหยุด : เหล็กจีนจากเตาIF รัฐบาลควรตระหนักและทบทวนได้แล้ว
  • รมว.คลังถกรอบทิศ หาทางรับมือผลกระทบ \'ทรัมป์2.0\' รมว.คลังถกรอบทิศ หาทางรับมือผลกระทบ 'ทรัมป์2.0'
  •  

Breaking News

(คลิป) เมื่อกล้องวงจรปิด 'ชั้น14และบ้านจันทร์ส่องหล้า' เสียพร้อมกัน นอนบ้านไม่ได้นอนชั้น14 ด้วยหรือไม่

KNU ประกาศชัยชนะตีฐานทหารเมียนมาตรงข้ามช่องทางพุน้ำร้อนเมืองกาญจน์แตกกระเจิง

คดี‘ชั้น 14’พ้นพิษ! ‘บิ๊กต่าย’สั่งกองวินัยเตรียมสอบ‘หมอ รพ.ตำรวจ’

ได้โอกาสส่งออก! ‘อินโดนีเซีย’เผยปี’68คาดผลผลิตข้าวเหลือเกินบริโภคในปท.

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved