วันจันทร์ ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2568
นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เผยภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยเดือนมกราคม-สิงหาคม 2566 อยู่ที่ 154.88
ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.3% โดยการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้น 5.5% น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1)เพิ่มขึ้น 70.0% และการใช้ NGV เพิ่มขึ้น 1.0% ขณะที่ น้ำมันกลุ่มดีเซล น้ำมันเตาและ LPG มีการใช้ลดลง 3.9% 9.3% และ 0.6% ตามลำดับ
การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน เดือนมกราคม-สิงหาคม 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 31.91 ล้านลิตร/วันเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.5%แก๊สโซฮอล์ 95 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 18.10 ล้านลิตร/วันและแก๊สโซฮอล์ อี20 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.94ล้านลิตร/วัน ขณะที่การใช้แก๊สโซฮอล์ 91 แก๊สโซฮอล์อี85 และเบนซิน ลดลงมาอยู่ที่ 6.83 ล้านลิตร/วัน0.19 ล้านลิตร/วันและ 0.47 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ ทั้งนี้ ส่วนต่างราคาแก๊สโซฮอล์ 95 ใกล้เคียงกับแก๊สโซฮอล์ 91 ประกอบกับแก๊สโซฮอล์ อี20 มีราคาที่ต่ำกว่าแก๊สโซฮอล์ อี85
การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล เดือนมกราคม-สิงหาคม 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 70.00ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.9% เป็นการลดลงทุกชนิด สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 ลดลงมาอยู่ที่ 64.30 ล้านลิตร/วันขณะที่น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาและน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 และน้ำมันดีเซลพื้นฐาน ปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 0.90 ล้านลิตร/วัน 0.15 ล้านลิตร/วัน และ 4.65 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ
ทั้งนี้ ภาครัฐยังคงมาตรการช่วยเหลือราคาน้ำมันดีเซล โดยใช้มาตรการลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลจนถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 และตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2566 ได้ใช้มาตรการตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไว้ที่ 32 บาทต่อลิตร ต่อไปอีกระยะเวลาหนึ่ง โดยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จะเข้าไปชดเชย เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและภาคธุรกิจภายใต้สถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซลโลกมีความผันผวนจากความกังวลทางเศรษฐกิจและวิกฤตด้านการเงินจากความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1)เดือนมกราคม-สิงหาคม 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 13.30 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน70.0% เนื่องจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยวกลับมาเดินทางทางอากาศยานเพิ่มมากขึ้น แต่เมื่อพิจารณาจากช่วงเดือนที่ผ่านมาปริมาณการใช้ปรับตัวลดลงเล็กน้อย
การใช้ LPG เดือนมกราคม-สิงหาคม 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 18.19 ล้านกก./วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.6% โดยภาคปิโตรเคมี
มีการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 8.24 ล้าน กก./วัน ภาคครัวเรือนลดลงมาอยู่ที่ 5.70 ล้าน กก./วัน และภาคอุตสาหกรรมลดลงมาอยู่ที่ 2.00 ล้าน กก./วันขณะที่การใช้ในภาคขนส่งอยู่ที่ 2.25 ล้าน กก./วันเพิ่มขึ้น 4.3% เนื่องจากราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้น
การใช้ NGV เดือนมกราคม-สิงหาคม 2566เฉลี่ยอยู่ที่ 3.43 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.0% เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดำเนินการตามปกติ ประกอบกับมาตรการบรรเทาผลกระทบราคาพลังงานโดย ปตท. ร่วมอุดหนุนกลุ่มรถแท็กซี่และกลุ่มรถโดยสารสาธารณะ ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2566 จนถึงสิ้นปี
การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง เดือนมกราคม-สิงหาคม 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 1,042,520 บาร์เรล/วันเพิ่มขึ้น จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.3% คิดเป็นมูลค่าการนำเข้ารวม 92,532 ล้านบาท/เดือน โดยเป็นการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่ 968,409 บาร์เรล/วันเพิ่มขึ้น 1.0% คิดเป็นมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่ 87,481 ล้านบาท/เดือน สำหรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG) อยู่ที่ 74,111 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 5.8%คิดเป็นมูลค่าการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปอยู่ที่ 5,051 ล้านบาท/เดือน
การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป เดือนมกราคม-สิงหาคม 2566 เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล น้ำมันเตาน้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPG โดยปริมาณส่งออกอยู่ที่ 164,378 บาร์เรล/วัน ลดลง 3.0% คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 16,500 ล้านบาท/เดือน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี