สุดยอดมอเตอร์สปอร์ตของโลก “โมโตจีพี” สนามประเทศไทย ลงดวลคันเร่งกระหึ่ม สนามช้างฯ เซอร์กิต ผลควอลิฟาย “ฮอร์เก มาร์ติน” ยอดนักบิดสแปนิช จาก พรีม่า พรามัค เรซซิ่ง ทุบสถิติคว้าโพลไปครอง ก่อนระเบิดฟอร์มนำม้วนเดียวเข้าวิน “สปรินต์เรซ” ขณะ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดขวัญใจชาวไทยจาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย รีดฟอร์มเฉียบ คว้ากริดที่ 5 โมโตทู ลุ้นล่าชัยชนะในโฮมเรซ สุดสัปดาห์นี้
ศึกโมโตจีพี รายการ โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ เข้าสู่การแข่งขันในรอบควอลิฟาย เพื่อจัดอันดับสตาร์ต ในวันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม 2566 ท่ามกลางการหลั่งไห ลเข้าชมของแฟนมอเตอร์สปอร์ตทั้งไทยและต่างชาติจำนวนหลายหมื่นคน รวมถึงเกมในรอบ “สปรินต์” ซึ่งถือเป็นสีสันใหม่ของ โมโตจีพี ในฤดูกาลนี้
โดยผลการควอลิฟายในรุ่น โมโตจีพี ปรากฏว่า ฮอร์เก มาร์ติน ยอดนักบิดสแปนิชจาก พรีม่า พรามัค เรซซิ่ง สร้างผลงานสุดร้อนแรง ทุบสถิติตลอดกาลของ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ลงอย่างราบคาบ ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 29.287 วินาที เฉือน ลูก้า มารินี นักบิดอิตาเลียนจาก มูนนีย์ วีอาร์46 เรซซิ่ง ทีม กริดที่ 2 เพียง 0.138 วินาที ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ อเลช เอสปาร์กาโร นักบิดสแปนิชจาก อพริเลีย เรซซิ่ง ทีม ตามหลัง 0.174 วินาที
ขณะที่แชมป์โลกคนปัจจุบันและจ่าฝูงบนตารางคะแนนสะสมอย่าง ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า นักบิด อิตาเลียนจาก ดูคาติ เลโนโว ทีม ได้ออกตัวจากกริดที่ 6 ตามหลัง 0.240 วินาที ด้าน มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลก 8 สมัยจาก เรปโซล ฮอนด้า ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 8 ตามหลัง 0.335 วินาที ตามด้วย ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร นักบิดเฟรนช์จาก มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี ในกริดที่ 10 ตามหลัง 0.420 วินาที
โดยผลการแข่งขันในรอบสปรินต์ เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ฮอร์เก มาร์ติน บิดนำม้วนเดียวจบคว้าชัยชนะไปครองด้วยเวลา 19 นาที 41.593 วินาที เฉือน แบรด บินเดอร์ นักบิดแอฟริกาใต้ จาก เรดบูล เคทีเอ็ม แฟ็คตอรี เรซซิ่ง อันดับ 2 เพียง 0.933 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ ลูก้า มารินี ตามหลัง 1.841 วินาที
ด้าน มาร์ค มาร์เกซ เข้าป้ายอันดับ 4 ตามหลัง 3.503 วินาที ขณะที่ ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า เข้าเส้นชัยในอันดับ 7 ตามหลัง 4.121 วินาที ส่งผลให้ ฮอร์เก มาร์ติน ร่นระยะห่างเข้ามาเหลือ 18 แต้ม ในการลุ้นแชมป์โลกโมโตจีพีฤดูกาลนี้
ส่วนผลงานของนักบิดขวัญใจชาวไทย ในรุ่น โมโตทู “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย เจ้าของหมายเลข 35 ทะยานคว้ากริดที่ 5 มาครองด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 35. 788 วินาที ตามหลังเจ้าของโพลอย่าง เฟร์มิน อัลเดเกร์ นักบิดสแปนิชจาก เบต้า ทูล สปีดอัพ เพียง 0.417 วินาที ส่วน เปโดร อคอสต้า เต็งแชมป์โลก จาก เรดบูล เคทีเอ็ม อาโย คว้ากริดที่ 2 ตามหลัง 0.177 วินาที
ผลควอลิฟายในรุ่นเล็ก อย่าง โมโตทรี เดนิซ ออนจู นักบิดเติร์กจาก เรดบูล เคทีเอ็ม อาโย คว้าโพลไปครอง พร้อมสร้างสถิติใหม่ ด้วยเวลา 1 นาที 42.061 วินาที ด้านนักบิดไทย ที่ลงแข่งขันด้วยสิทธิ์ไวด์การ์ดอย่าง “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี จาก ฮอนด้า ทีม เอเชีย ได้ออกตัวจากกริดที่ 27 ส่วน “ไอเดีย” กฤตภัทร เขื่อนคำ จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง - โบเอ คว้ากริดที่ 29
ทั้งนี้ การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของ โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2023 จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคมนี้ เริ่มต้นด้วย โมโตทรี ในเวลา 12.00 น. ต่อด้วย โมโตทู เวลา 13.15 น. และปิดท้ายความมันส์ด้วย โมโตจีพี เวลา 15.00 น.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี