นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า ภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยในรอบ 9 เดือนแรกปี 2566 (เดือนมกราคม-กันยายน 2566) อยู่ที่ 153.54 ล้านลิตร/วันเพิ่มขึ้น 1.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน เพิ่มขึ้น 4.3% น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1)เพิ่มขึ้น 66.5% การใช้ LPG เพิ่มขึ้น 0.5% และ NGV เพิ่มขึ้น 0.2 % ในขณะที่น้ำมันเตา และน้ำมันกลุ่มดีเซล มีการใช้ลดลง 11.4% และ 4.5% ตามลำดับ
โดยการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในเดือนมกราคม-กันยายน 2566 ของน้ำมันกลุ่มเบนซิน เฉลี่ยอยู่ที่ 31.70 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น4.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และการใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ 69.16 ล้านลิตร/วันลดลง 4.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 2.50 บาท/ลิตร ตามชนิดของน้ำมันดีเซล และกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะเข้าไปชดเชยเพื่อตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่ประชาชนและภาคธุรกิจภายใต้สถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซลโลกที่มีความผันผวนจากความกังวลทางเศรษฐกิจ และความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 13.22 ล้านลิตร/วัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 66.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนนั้น เนื่องมาจากการฟื้นตัวด้านการท่องเที่ยวหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงปีก่อนกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติแล้ว จึงส่งผลให้มีปริมาณการใช้น้ำมัน Jet A1 เพิ่มมากขึ้นอีกทั้งรัฐบาลได้มีการประกาศใช้นโยบายฟรีวีซ่า สำหรับนักท่องเที่ยวประเทศจีนและคาซัคสถาน รวมระยะเวลา 5 เดือน ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเข้ามาช่วยสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวเดินทางเพิ่มมากขึ้น การใช้ LPG นั้นเฉลี่ยอยู่ที่ 18.15 ล้าน กก./วัน เพิ่มขึ้น 0.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และการใช้ NGV เฉลี่ยอยู่ที่ 3.40 ล้าน กก./วัน เพิ่มขึ้น 0.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงมีปริมาณการนำเข้ารวมเฉลี่ยอยู่ที่ 1,043,105 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 0.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นมูลค่าการนำเข้ารวม 93,700 ล้านบาท/เดือน และการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป มีปริมาณส่งออกรวม อยู่ที่ 167,695 บาร์เรล/วันเพิ่มขึ้น 1.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 17,310 ล้านบาท/เดือน
นางสาวนันธิกากล่าวว่า คาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในไตรมาส 4 ปี 2566 (เดือนตุลาคม – ธันวาคม 2566) เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2566 (เดือนกรกฎาคม-กันยายน 2566) คาดว่าการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงจะเพิ่มขึ้น 3.10% เนื่องจากเข้าสู่ฤดูการท่องเที่ยว และฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิต การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เพิ่มขึ้น 20.1% น้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 8.2% น้ำมันเตา เพิ่มขึ้น 3.5% และกลุ่มเบนซิน เพิ่มขึ้น0.3% ขณะที่การใช้ LPG ลดลง 9.7% เนื่องจากภาคปิโตรเคมีลดกำลังการผลิตลง
ทั้งนี้คาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงภาพรวมปี 2566 โดยคาดว่าจะมีการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 153.08 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 1% จากปี 2565 ซึ่งการใช้ที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว หลักๆ แล้ว มาจากการใช้น้ำมัน อากาศยานเชิงพาณิชย์(Jet A1) เพิ่มขึ้น 53.6% เนื่องจากการฟื้นตัวด้านการท่องเที่ยวหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19กลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ อีกทั้งรัฐบาลได้มีการประกาศใช้นโยบายฟรีวีซ่าซึ่งคาดการณ์ว่าจะช่วยสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวเดินทางทางอากาศยานเพิ่มมากขึ้นต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี