นายวีรพันธ์ อังสุมาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ โฮมโปร เปิดเผยถึงการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2566 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 54,645.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,723.57 ล้านบาท หรือ 7.31% มีกำไรสุทธิ 4,764.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 199.77 ล้านบาท หรือ 4.38% โดยรายได้ดังกล่าวมาจากการขายสินค้าและรายได้จากการให้บริการลูกค้ารวม 51,402.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,426.42 ล้านบาท หรือ 7.14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวซึ่งเป็นอุตสาหกรรมสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย การออกมาตรการช้อปดีมีคืนจากภาครัฐ เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในช่วงไตรมาสแรก การเติบโตของยอดขายในกลุ่มสินค้าทำความเย็นในช่วงไตรมาส 2 ซึ่งตรงกับฤดูร้อน รวมถึงการจัดแคมเปญ “เก่ามีค่านำมาแลกใหม่” หรือ “Trade in” และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ ทั้งช่องทางสาขาและออนไลน์ เพื่อกระตุ้นยอดขาย นอกจากนี้ บริษัทมีการรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดสาขาใหม่ของโฮมโปรและเมกาโฮมตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 ปี 2565จนถึงปัจจุบัน

“การขยายสาขาในไตรมาส 3 บริษัทได้มีการเปิดโฮมโปรใหม่ 1 สาขา คือ สาขาซีคอน บางแค และมีการเปิดเมกาโฮมใหม่ 1 สาขา คือ สาขาปลวกแดง จังหวัดระยอง ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 3 บริษัทมีโฮมโปร 87 สาขา โฮมโปรเอส 5 สาขา เมกาโฮม 25 สาขา และโฮมโปรที่มาเลเซีย 7 สาขา”นายวีรพันธ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีรายได้ค่าเช่า 1,374.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 118.48 ล้านบาท หรือ 9.43% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการจัดเก็บรายได้ค่าเช่าพื้นที่เช่าในสาขาของโฮมโปร และศูนย์การค้ามาร์เก็ต วิลเลจ ได้มากขึ้นโดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยว เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และยังมีรายได้อื่นๆ อีก 1,867.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น178.67 ล้านบาท หรือ 10.58% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นผลมาจากการเพิ่มการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับคู่ค้า ทั้งในช่องทางสาขาและช่องทางออนไลน์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน