นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)กล่าวในงานเสวนาวิชาการหัวข้อ “เปิดการค้าเสรี ไทย-ตะวันออกกลาง : อุตสาหกรรมปิโตรเคมีไทยจะไปต่ออย่างไร” ว่า การจัดงานเสวนาครั้งนี้ จัดโดยกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นับเป็นการระดมข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และแนวทางภายใต้การเจรจาการค้าเสรีไทย-ตะวันออกกลาง จากมุมมองของภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในทุกมิติ โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ที่เป็นอุตสาหกรรมพื้นฐานสำคัญของไทย ด้วยกำลังการผลิตกว่า 35 ล้านตัน เป็นอันดับ 1 ในอาเซียนและอันดับ 16 ของโลก โดยมีมูลค่าการลงทุนสะสมกว่า 1.2 ล้านล้านบาทสร้างรายได้ให้ประเทศไทยกว่า 836,000 ล้านบาท คิดเป็น 5.2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และการจ้างงานตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) กว่า 414,000 คน
นายเกรียงไกรกล่าวว่า การจัดงานเสวนาดังกล่าว จะมีส่วนให้เกิดการสนทนาหารือ (Dialogue) และความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ภายใต้นโยบาย “One FTI” เพื่อให้เกิด One Team สำหรับร่วมกันประเมินความคุ้มค่าในการเจรจาและวิเคราะห์ผลกระทบรอบด้าน โดยคาดหวังว่างานเสวนาดังกล่าว จะนำไปสู่การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ภายใต้การเจรจาข้อตกลงการเปิดการค้าเสรี ไทย-ตะวันออกกลาง เพื่อให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์สูงสุด
ด้านนายนาวา จันทนสุรคน กรรมการบริหาร ส.อ.ท. กล่าวว่า การเข้าไปลงทุนในตลาดตะวันออกกลางโดยเฉพาะประเทศซาอุดีอาระเบียนั้น ทาง ส.อ.ท. สามารถรองรับอุตสาหกรรมที่ซาอุดีอาระเบียมีความต้องการได้หลายภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากสมาชิก ส.อ.ท. ประกอบไปด้วย 46 กลุ่มอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ ความงาม อาหาร ก่อสร้าง ปูนซีเมนต์ และเหล็ก เป็นต้น ซึ่งจะสอดคล้องกับสิ่งที่ทางซาอุดีอาระเบียกำลังจะดำเนินโครงการเดอะไลน์
“โครงการเดอะไลน์ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเมืองใหม่ของซาอุดีอาระเบีย โดยในส่วนของการก่อสร้างมีมูลค่ากว่า 500,000 ล้านเหรียญ และจะเกิดการจ้างงานกว่า 380,000 ตำแหน่ง ซึ่งการก่อสร้างโครงการดังกล่าวนับเป็นโอกาสที่ดีของแรงงานไทย และหากทำได้จริง จะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกไม่แพ้กำแพงเมืองจีน ซึ่ง ส.อ.ท. ประเมินดูแล้วว่ามีมากกว่า 20 กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีโอกาส แต่ซาอุดีอาระเบียไม่ได้เปิดให้เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น ดังนั้นเราเองก็ต้องพร้อม ต้องเร็ว เพื่อคว้าโอกาสเหล่านี้ไว้” นายนาวากล่าว
นอกจากนี้ สิ่งที่ต้องพัฒนาและเตรียมความพร้อมในการไปลงทุนที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย คือ การพัฒนาสินค้าพื้นฐานที่ประเทศไทยมีอยู่แล้ว เช่น อาหารฮาลาล เครื่องประดับและเครื่องสำอาง ให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคในประเทศซาอุดีอาระเบีย และต้องมีการลงทุนแบบเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อลดความเสี่ยง โดยเริ่มจากการจัดศูนย์กระจายสินค้าดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี