nn สภาพการณ์ของสังคมไทยจากข้อมูลล่าสุดของ...สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์...พบว่า หนี้สินครัวเรือนไตรมาส 2 ปี 2566 มีมูลค่า 16.07 ล้านล้านบาท ขยายตัว 3.6% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และมีสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีอยู่ที่ 90.7% ...ซึ่งคงที่ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า..ขณะที่ความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือนปรับลดลงเล็กน้อย โดยสินเชื่อส่วนบุคคลขยายตัวเร่งขึ้นสินเชื่อบัตรเครดิตไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากนัก...หนี้เสียหรือเอ็นพีแอลต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ 2.71%... จำนวนบัญชีหนี้เสียเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จาก 4.4 ล้านบัญชี เป็น 4.9 ล้านบัญชี แม้ที่ผ่านมาจะมีมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ช่วยเหลือแล้วก็ตาม
ขณะเดียวกันในช่วงไตรมาส 3/2566 การจ้างงาน เพิ่มขึ้น 1.3% อัตราการว่างงานปรับลดลงมาที่0.99% ซึ่งการว่างงานปรับลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 7 ลดลง 32.8% ทั้งผู้ที่ไม่เคยทำงานมาก่อน และผู้ว่างงานระยะยาว...และปัจจุบันผู้มีงานทำอยู่ที่ 40.1 ล้านคน ปรับเพิ่มขึ้น 1.3% แรงงานภาคเกษตรปรับเพิ่มขึ้น 2% อยู่ที่ 12.6 ล้านคนแรงงานนอกภาคเกษตร เพิ่มขึ้น 1% อยู่ที่ 27.4 ล้านคน โดยเพิ่มขึ้นในส่วนโรงแรมและภัตตาคาร 8.3% ก่อสร้าง ขนส่งผลผลิต
ทุกคนเห็นชุดข้อมูลทั้ง2 ชุดนี้แล้วรู้สึกอะไรหรือไม่...เห็นถึงความย้อนแย้งหรือไม่...ทำไมคนไทยมีงานทำมากขึ้น คนว่างงานลดลงต่ำมากในระดับ 0% กว่า…แต่ครัวเรือนไทยยังมีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น...และซ้ำร้ายความสามารถในการชำระหนี้กลับลดลงด้วย...แบบนี้เราพอจะพูดได้ไหมว่า...คนไทยมีรายได้ไม่พอกับรายจ่าย...!! ก็อย่างที่เห็นว่าสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตโดยเฉพาะอาหารเพิ่มขึ้นทุกอย่าง...แม้แต่บริการสาธารณะไม่ว่าจะน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่ารถโดยสารก็เพิ่มขึ้นแบบไร้เหตุผล ไร้ความปรานี โดยเฉพาะค่าไฟฟ้า...ที่เพิ่มขึ้นจากต้นทุนที่ประชาชนไม่สมควรจะเป็นผู้แบกรับด้วยซ้ำ...
เจาะไปที่เรื่องหนี้ครัวเรือนสัดส่วนที่เป็นหนี้มากที่สุดคือกลุ่มเกษตรกร โดยเฉพาะชาวนา ที่อยู่กว่า 10 ล้านคน...แม้แต่เกษตรกรในกลุ่มอื่นๆ ทั้งกลุ่มชาวไร่ ชาวสวนผลไม้ ก็ล้วนเป็นหนี้ครัวเรือนกันทั้งนั้น...ทั้งที่ไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมทำกันมาเป็นร้อยปี ส่งออกสินค้ากลุ่มอาหารเป็นอันดับ 12 ของโลก...สรุปว่าคนที่ยากจนที่สุดและมีหนี้สินมากที่สุดในประเทศไทยคือ...เกษตรกร...แต่คนที่ร่ำรวยมากที่สุดในประเทศติดอันดับท็อป 100 ของโลก....คือกลุ่มทุนสินค้าเกษตร…
ถ้าไม่พูดว่านี่คือความเหลื่อมล้ำ...แล้วจะใช้คำไหนมาอธิบายได้อีก (ใครนึกออกบอกทีนะครับ)...อ้ออีกคำถามสำคัญ...ในแต่ละปีรัฐบาลใช้งบประมาณในการเข้ามาอุดหนุนสินค้าเกษตรปีละเป็นแสนแสนล้าน...เงินงบประมาณเหล่านี้ไหลไปเขากระเป๋าใคร????
พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี