"สุริยะ"เดินหน้าแผนการเร่งรัดการลงทุนในพื้นที่"อีอีซี" มอบหมาย 3 หน่วยงาน"สกพอ.-บีโอไอ-กนอ."จัดตั้งคณะทำงานร่วมฯ"กลุ่มนักลงทุนสัมพันธ์" ดึงนักลงทุนต่างประเทศเข้าลงทุนเพิ่มในไทย พร้อมกางแผน 4 โครงการหลัก เดินเครื่องก่อสร้างให้เสร็จตามแผน
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2566 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานประชุมคณะกรรมการเร่งรัดการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ได้จัดประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 1/2566 ตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเร่งรัดการลงทุนในพื้นที่อีอีซี โดยมี นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ในฐานะกรรมการและเลขานุการฯ เข้าร่วมประชุม
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมฯ ได้เร่งรัดมาตรการการดำเนินต่างๆ ในพื้นที่อีอีซี เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความรวดเร็ว มีการบูรณาการระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มประสิทธิภาพการลงทุนในพื้นที่อีอีซีสามารถสร้างผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน
สำหรับการประชุมคณะกรรมการฯ ในครั้งนี้ ได้พิจารณาเห็นชอบและรับทราบการเร่งรัดการลงทุนในพื้นที่อีอีซี โดยในที่ประชุมฯ ได้พิจารณาเห็นชอบข้อเสนอการบูรณาการทำงานร่วมกันของหน่วยงานส่งเสริมการลงทุน ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการลงทุนของประเทศไทยให้เป็นไปอย่างมีเอกภาพ ลดความซ้ำซ้อนของการดำเนินงานระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ลดความสับสนของผู้ลงทุน และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ สกพอ. , บีโอไอ และ กนอ.จัดให้มีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงาน เพื่อลดความซ้ำซ้อน และจัดตั้งคณะทำงานร่วมกัน เพื่อทำหน้าที่เป็นกลุ่มนักลงทุนสัมพันธ์ (Investor Relations) ของประเทศไทย โดยล่าสุดได้มีการเจรจาหารือร่วมกันแล้ว ถึงแนวทางสำหรับการเป็นศูนย์กลางรับรองนักลงทุนหรือผู้ที่สนใจจะเข้ามาลงทุน รวมทั้งประชาสัมพันธ์มาตรการส่งเสริมการลงทุนของประเทศไทย ยังเตรียมเข้าเจรจาผู้ที่สนใจเข้าลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อหวังเพิ่มเม็ดเงินการลงทุนในพื้นที่อีอีซี
ขณะเดียวกัน จากที่มีนักลงทุนต่างประเทศที่ให้ความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในพื้นที่อีอีซี จึงได้พิจารณาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติมากยิ่งขึ้น โดยในที่ประชุมได้พิจารณาเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของภาครัฐและการอำนวยความสะดวกด้านการลงทุนพัฒนาที่ดินเพื่อการอุตสาหกรรม ด้วยการปรับปรุงขั้นตอนและระยะเวลาการจัดทำรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)
นอกจากนี้ ยังเชิญกรมโยธาธิการและผังเมือง (ยผ.) ร่วมเสนอแนะแนวทางปฏิบัติในการจัดทำผังเมืองใหม่ระดับอำเภอให้มีความสอดคล้องกับแผนผังอีอีซี โดยเฉพาะด้านการใช้ประโยชน์ที่ดิน รวมทั้งเชิญสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เข้าร่วมเสนอแนะปรับปรุงขั้นตอนการจัดทำรายงาน EIA นิคมอุตสาหกรรม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษด้วย
สำหรับในการประชุมครั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รายงานถึงแผนการขับเคลื่อนรวมถึงเร่งรัดการส่งมอบโครงการ โดยได้เร่งรัดการดำเนินการโครงสร้างพื้นฐาน 4 โครงการหลัก (EEC Project Lists) ให้เสร็จตามแผนงานที่กำหนด ได้แก่
1.โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ที่ประชุมเร่งรัดการส่งมอบพื้นที่ส่วนที่เหลือ ช่วงพญาไท - บางซื่อ ให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 2567 ขณะที่พื้นที่อื่นมีความพร้อมสำหรับการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงและพื้นที่เชิงพาณิชย์ (Transit Oriented Development, TOD) แล้ว อยู่ระหว่างเอกชนคู่สัญญาส่งเอกสารไปที่บีโอไอ เพื่อรับบัตรส่งเสริมการลงทุนตามเงื่อนไขการเริ่มต้นโครงการที่กำหนดไว้ในสัญญา ซึ่ง รฟท.จะเร่งรัดเอกชนคู่สัญญาให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม 2567
2.โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ที่ประชุมเร่งรัดให้กองทัพเรือประกาศจัดซื้อจัดจ้างงานก่อสร้างทางวิ่งที่ 2 และทางขับ ภายในเดือนธันวาคม 2566 พร้อมทั้งเร่งรัดให้ สกพอ. , รฟท.และเอกชนคู่สัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน และโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา สรุปแผนการดำเนินงานร่วมกัน เพื่อให้เงื่อนไขการเริ่มต้นโครงการครบถ้วนสมบูรณ์ตามที่กำหนดไว้ในสัญญา
3.โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ที่ประชุมมีมติให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยเร่งรัดและกำกับการก่อสร้างงานถมทะเลให้แล้วเสร็จและส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนคู่สัญญาภายในเดือนพฤศจิกายน 2568 ตามที่กำหนดไว้ในสัญญาร่วมลงทุน คาดว่าการก่อสร้างโครงสร้างท่าเรือในส่วนท่าเรือ F1 จะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ปลายปี 2570
4.โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ที่ประชุมมีมติให้ กนอ.ติดตามการถมทะเลของเอกชนคู่สัญญาให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2567 (ปัจจุบันมีความก้าวหน้าประมาณ 69.64%) คาดว่าการก่อสร้างโครงสร้างท่าเรือก๊าซจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ประมาณต้นปี 2570
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี