นายสัญญา เหมพรรณไพเราะ ประธานชมรมรถสวยกาญจนา หรือ คุณหมี เปิดเผยว่า ปัจจุบันโลกยานยนต์กำลังมีความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ซึ่งหากมองในส่วนของลูกค้า หรือ ผู้ใช้รถ จะเห็นได้ชัดว่าผู้ใช้รถ กำลังแสวงหาทางเลือกใหม่ในด้านพลังงานที่ดีขึ้น ทั้งเรื่องความประหยัดค่าใช้จ่ายรายเดือน จากที่ผู้ใช้รถบางท่านต้องเติมน้ำมันหลายพันบาท อาจลดลงเหลือไม่เกิน 2 พันต่อเดือน และยังมีในส่วนของลูกค้าอีกกลุ่มที่ได้เลือกซื้อยานยนต์ไฟฟ้า หรือรถ EV เพียงเพราะอยากใช้จริงๆ แต่ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินค่าน้ำมัน แต่มีความต้องการที่จะได้ทดลองเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนก้าวเข้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้า หรือรถ EV อย่างเต็มรูปแบบในไม่ช้า
อย่างไรก็ตาม กับหากย้อนกลับมาดูในตลาดรถมือสอง เมื่อรถยานยนต์ไฟฟ้า หรือรถ EV จะกลับมาสู่ตลาดรถมือสองแล้วราคาการรับซื้อรถต่อจากผู้จำหน่ายรถมือสองจะเป็นอย่างไรตรงนี้ปัจจุบันยังไม่สามารถตอบ ได้ชัดเจนเหมือนในอดีตเพราะขณะนี้มีหลายๆ ปัจจัยที่มากระทบกับราคาตลาดรถยนต์มือสองทั้งระบบ
“การประเมินราคาซื้อ-ขายรถมือสองทั้งระบบ ณ ปัจจุบันมีความความผันผวนมาก เพราะผมมองว่า ในอดีตอาจจะใช้สูตรโดยคร่าวๆ ได้ เช่น พอซื้อรถมาจะขาดทุนปีแรก
30% และลดลงปีต่อๆ ไป ปีละ 10% แต่ปัจจุบันไม่สามารถใช้สูตรแบบเดิมได้แล้ว เพราะวันนี้มีภาวะแทรกซ้อนหลายอย่าง ทั้งสภาพเศรษฐกิจ, ปริมาณรถโดนยึด, ปริมาณรถยนต์ใหม่ ทำให้การคำนวณราคาค่อนข้างผันผวน และไม่มีสูตรการคำนวณที่ชัดเจนอีกต่อไป”นายสัญญา กล่าว และเปิดเผยต่อว่า
การคาดการณ์เกี่ยวกับราคารถมือสองที่เป็นรถยานยนต์ไฟฟ้า หรือรถ EV นั้น ในอนาคตขณะนี้ยังเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาราคา เพราะวันนี้รถยานยนต์ไฟฟ้ายังเข้ามาในตลาดมือสองไม่เยอะ และยังมีความเสี่ยงที่จะเป็นสินค้าส่วนเกินของตลาด เนื่องมาจากเทคโนโลยีใหม่ที่ประสิทธิภาพสูงกว่า ออกมาแทนที่รถยานยนต์ไฟฟ้า หรือรถ EV ยุคแรกแต่ ณ วันนี้ ด้วยความที่อายุรถยานยนต์ไฟฟ้า หรือ รถ EV ยังใหม่ส่วนใหญ่ยังอยู่ในระยะการรับประกัน WARRANTY ของศูนย์ ทำให้ปัญหายังไม่เกิดแต่ถ้าอายุ 7-8 ปี ใกล้ๆ หมดวารันตี อาจจะเกิดภาวะสินค้าล้นตลาดได้ เนื่องจากลูกค้าที่จะซื้อมือสอง อาจจะไม่กล้าซื้อเนื่องจากแบตเตอรี่มีราคาที่สูงมาก และเป็นต้นทุนเกือบครึ่งหนึ่งของราคารถ
อย่างไรก็ตาม อยากฝากอะไรถึงลูกค้าว่า อยากให้วางแผนเลือกซื้ออย่างรอบคอบ และใช้เหตุผล โดยศึกษาหาข้อมูลให้รอบด้าน ไม่ต้องซื้อตามกระแส เพราะวันนี้เป็เพิ่งแค่จุดเริ่มต้นของยานยนต์ หรือรถ EV ยุคใหม่ ที่ยังมีอะไรใหม่ๆ อีกหลายอย่าง ที่ต้องรอการค้นคว้าวิจัย และเลือกรถยนต์ให้เหมาะสมกับการใช้งานของตัวเราจะดีกว่า
ด้านนายณัฐวุฒิ ไพศาลวิภัชพงศ์ หรือ คุณนัท ผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว หนึ่งในผู้บริหารเว็บไซต์โฆษณารถมือสอง Car4sure (คาร์โฟร์ชัวร์) กล่าวว่า กระแสยานยนต์ไฟฟ้า หรือรถ EV ที่เข้ามาทำตลาดอย่างคึกคักอยู่ในขณะนี้ ผมมองว่าเป็นวิวัฒนาการของโลกยานยนต์ ที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยเปรียบเทียบกับอดีตที่โลกเคยมีเครื่องยนต์หัวฉีดที่มาแทนที่คาบูเรเตอร์ หรือ เครื่องดีเซลแบบคอนมอนเรล ที่มาแทนดีเซลแบบดั้งเดิม ซึ่งมองว่าความเปลี่ยนแปลงแต่ละยุค ย่อมมีช่วงเวลาในการเปลี่ยนผ่าน อาจใช้เวลา 5-10 ปีคงไม่ได้เปลี่ยนแปลงแบบกะทันหัน เพราะฉะนั้นก็เป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา
ส่วนคำแนะนำเกี่ยวกับการตัดสินใจของผู้บริโภคในการซื้อรถยนต์ว่า ถึงเวลาของรถยานยนต์ไฟฟ้าหรือยัง ตรงนี้มองว่า ณ ปัจจุบันยังมองว่า การใช้งานรถยานยนต์ไฟฟ้าเป็นรถยนต์เพียงคันเดียวในบ้าน อาจจะยังมีความเสี่ยง แนะนำให้ซื้อเป็นคันที่ 2 หรือ 3 โดยยังมีรถยนต์น้ำมันยืนพื้นอยู่ในบ้านอย่างน้อย 1 คัน จะดีกว่า เพราะยานยนต์
ไฟฟ้า หรือ รถ EV ยังมีข้อจำกัดในเรื่องระยะทาง และจุดแวะชาร์จ รวมถึงเทคโนโลยียังใหม่ อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาจากใช้งาน และคนที่จะเริ่มใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า หรือ รถ EV ต้องมีความพร้อมด้านการเงิน ชนิดที่ว่าไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องราคาขายต่อเพราะมีความเสี่ยงที่จะขายไม่ได้ราคา ในอนาคตเพราะเทคโนโลยีเปลี่ยนเร็วมาก
อย่างไรก็ตาม กับสถานการณ์ดังกล่าวนี้ผมมองว่าในอนาคตอาจจะเกิดปัญหามากมายหากไม่วางแผนการแก้ไขในวันนี้เพราะปัจจุบันผมเชื่อว่า สถานการณ์นี้ย้งมีปัญหาที่ซ่อนอยู่ และรอวันปะทุเหมือนระเบิดเวลา ที่ภาครัฐยังมองไม่เห็น ดังนั้น จึงอยากฝากไปถึงภาครัฐให้มองเรื่องนี้ให้ครบทุกมิติ มองให้รอบด้าน นอกเหนือจากการผลักดันนโยบายให้คนไทยเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้า หรือ รถ EV ก็จำเป็นต้องวางแผนหาทางออกในเรื่องการกำจัดซากรถเก่าด้วย โดยเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้า ที่สุดท้าย อาจจะกลายเป็นขยะมลพิษ หากเกิดภาวะสินค้าล้นตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับยานยนต์ไฟฟ้า หรือรถ EV ยุคบุกเบิกที่เชื่อว่าน่าจะหาคนซื้อต่อได้ยาก หากเกิดเทคโนโลยีใหม่แบบก้าวกระโดด เช่น ชาร์จได้เร็วขึ้นและวิ่งได้ไกลขึ้น
“ผมอยากฝากจะประเด็นไว้ว่า การวางนโยบายผลักดันยานยนต์ไฟฟ้าสู่ตลาดเป็นเรื่องที่ดี แต่อยากฝากถึงภาครัฐว่าต้องคิดให้รอบด้าน และมองเรื่องนี้ให้ครบทุกมิติ โดยส่วนตัวยังมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการกำจัดซากรถเก่า ที่วันนี้ยังไม่มีนโยบายหรือแผนรองรับที่เป็นรูปธรรม และมองว่าอาจเกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมตามมา และไม่อยากให้เร่งเร้านโยบายอะไรให้เร็วเกินไป จนกระทบต่อตลาดและภาคธุรกิจ โดยมองว่าเรื่องยานยนต์ไฟฟ้า เป็นอะไรที่ใหม่มาก และคนไทยยังพอมีเวลาให้เรียนรู้ จึงอยากให้ความเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปโดยธรรมชาติมากกว่า”นายณัฐวุฒิ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี