‘คมนาคม’แจง
ปมรางจ่ายหลุด
รถไฟฟ้าสีชมพู
ขยายเวลานั่งฟรี
“สุรพงษ์”รมช.คมนาคม แจงอุบัติเหตุรางจ่ายกระแสไฟหลุดไม่กระทบระบบเดินรถ‘สายสีชมพู’ เตรียมพิจารณาขยายวันเปิดให้บริการฟรี ชดเชยประชาชน หลังต้องหยุดให้บริการ 7 สถานี กำชับหน่วยงานเข้มงวดกรณีการเข้าทำงานของผู้รับจ้างในเขตระบบรถไฟฟ้า เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อการเดินรถไฟฟ้า
เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2566 นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคมเปิดเผยถึงกรณีรางนำไฟฟ้า (Conductor rail)ที่เป็นรางจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับรถไฟฟ้าสายสีชมพูหลุดร่วงจากทางวิ่งลงชั้นพื้นถนน(ไม่ใช่รางรถไฟฟ้าที่รองรับล้อเหล็ก)และเกี่ยวสายไฟฟ้าบริเวณหน้าตลาดชลประทานได้รับความเสียหาย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อเวลา 04.45 น.เมื่อวันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมา บริเวณสถานีสามัคคีว่าเบื้องต้น สันนิษฐานว่าเป็นผลจากการดึงเข็มพืดเหล็ก (sheet pile)ของโครงการระบบสาธารณูปโภคบริเวณด้านล่างของโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ออกตามขั้นตอนก่อสร้าง เมื่องานแล้วเสร็จ ซึ่งอาจมีเหตุการณ์ที่ทำให้ระดับของรางนำไฟฟ้าไม่อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง
โดยส่งผลให้เมื่อมีตัวรับกระแสไฟฟ้า(Collector Shoe) ที่ติดกับตัวรถตรวจความพร้อมของเส้นทาง (รถไฟฟ้าหมายเลข PM40)ซึ่งกำลังเคลื่อนที่ ไปกระแทกส่งผลให้เกิดการขยับตัวของรางนำไฟฟ้า ออกจากจุดยึดแล้วร่วงลงมาด้านล่างบนถนนบางส่วน ประมาณ 300 เมตรและส่วนใหญ่ติดค้างอยู่บนโครงสร้าง ระหว่างสถานีแครายถึงสถานี ระยะทางรวมประมาณ 4.3 กิโลเมตรและยังพบว่ามีรอยไหม้จากประกายไฟที่เกิดจากการลัดวงจร 1 จุด บริเวณคานทางวิ่ง เหนือสถานที่ก่อสร้างโครงการระบบสาธารณูปโภคดังกล่าว (ใกล้ปากซอยติวานนท์ 34)
“ยืนยันว่าจะผลกระทบที่เกิดขึ้นผู้รับเหมาพร้อมชดเชย เนื่องจากมีการทำประกันที่ครอบคลุมอุบัติเหตุเหล่านี้อยู่แล้ว จึงไม่มีอะไรน่ากังวล ส่วนกรณีที่จะมีการติดแบล๊กลิสต์ผู้รับเหมาโครงการในอนาคตหรือไม่นั้น ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเชิงลึกร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไปโดยเบื้องต้นได้มีการสั่งให้หยุดการให้บริการใน 7สถานี หรือตั้งแต่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี ถึง สถานีเลี่ยงเมืองปากเกร็ดเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงเป็นเวลา7วันนับตั้งแต่วันที่24ธันวาคม ที่ผ่านมาแล้ว” รมช.คมนาคม ระบุ
นายสุรพงษ์กล่าวว่าสำหรับแนวทางการป้องกัน จากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น กรมการขนส่งทางราง (ขร.) และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำการกันพื้นที่ด้านความปลอดภัยให้แก่ประชาชน และดำเนินการตามมาตรการในการป้องกันเหตุ พร้อมตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกรวมถึงได้กำชับให้มีการเดินขบวนรถตรวจสอบความพร้อมเส้นทางโดยวิ่งสำรวจตอนตี 4 ก่อนเปิดให้บริการทุกวัน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพูได้รับปลอดภัยตลอดการเดินทางและการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)เข้มงวดการเข้าทำงานของผู้รับจ้างในเขตระบบรถไฟฟ้า เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อการเดินรถไฟฟ้าอีกด้วย
โดยหลังจากนี้ จะร่วมกับ รมว.คมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดมาตรการด้านความปลอดภัยที่เข้มงวดมากขึ้นได้แก่ 1.การเข้าพื้นที่เพื่อปฏิบัติงานผู้คุมงานต้องมีการแจ้งล่วงหน้าทุกครั้ง 2.กลุ่มบริษัทผู้รับเหมาต้องอยู่ครบถ้วนทุกราย ในกรณีที่จะมีการเคลื่อนย้ายสิ่งก่อสร้าง โดยจะต้องอยู่ในการควบคุมดูแลของหน่วยงานคมนาคม และ 3.การส่งมอบงานและพื้นที่ต้องมีการตรวจสอบและเซ็นรับทราบทุกครั้ง หากทั้ง 3 องค์ประกอบนี้ไม่ครบก็ห้ามดำเนินการในพื้นที่ก่อสร้างเด็ดขาด
“จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ถือเป็นเหตุสุดวิสัย ส่วนหนึ่งเกิดจากความประมาทเลินเล่อของผู้รับเหมาซึ่งในประเด็นนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นบริษัทซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)ที่เป็นผู้เคลื่อนย้าย หรือเป็นผู้รับเหมาที่ทางบริษัทจ้างมาต่อไป โดยได้เน้นย้ำว่าเหตุการณ์เหล่านี้ต้องไม่เกิดขึ้นอีกซึ่งหลังจากนี้ทางกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาทิรฟม. ขร.และบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรลจำกัด (เอ็นบีเอ็ม) จะมีการหารือร่วมกันถึงแนวทางการชดเชยผลกระทบที่ประชาชนจะได้รับ โดยเบื้องต้นอาจมีการพิจารณายืดเวลาการให้บริการสายสีชมพูฟรีต่อไปก่อน หลังจากที่เดิมมีกำหนดเตรียมเปิดให้บริการแบบเชิงพาณิชย์ ในวันที่ 3 มกราคม 2567” รมช.คมนาคม ย้ำ
ด้านนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการบริษัทเอ็นบีเอ็ม ผู้รับสัมปทานโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (โมโนเรล) สายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี กล่าวว่า เบื้องต้นรับทราบว่าบริเวณที่เกิดเหตุเป็นช่วงที่ ซิโน-ไทย เป็นผู้รับเหมาอยู่ระหว่างรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภคเพื่อคืนพื้นผิวจราจร เมื่อวานเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่เกิดในช่วงวันหยุด เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่บริษัทได้ติดต่อประสานงานไปยังต่างประเทศเพื่อจัดหาอะไหล่มาติดตั้งซ่อมแซม เนื่องจากอะไหล่สำรองในปัจจุบันมีเพียง 100 ชิ้น ซึ่งไม่เพียงพอต่อการซ่อมแซมในช่วงบริเวณที่เกิดเหตุ คาดว่าจะใช้อะไหล่ประมาณ 1,700 ชิ้นส่วน หากได้ชิ้นส่วนอะไหล่ครบแล้วใช้ระยะเวลาไม่นานในการติดตั้งซ่อมแซม นอกจากนี้บริษัทพยายามเร่งรัดหาผู้รับเหมาติดตั้งให้แล้วเสร็จ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากซิโน-ไทย อย่างเต็มที่
นายสุรพงษ์กล่าวย้ำว่าบริษัทยืนยันว่า ปัจจุบันยังเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพูตามปกติ โดยจะเปิดให้บริการเพียง 23 สถานี จากสถานีมีนบุรี-สถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28 ตั้งแต่ 06.00-00.00 น. และปิดให้บริการ จำนวน 7 สถานี ตั้งแต่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี-สถานีเลี่ยงเมืองปากเกร็ด โดยผู้โดยสารที่ใช้บริการจะต้องเปลี่ยนขบวนรถที่สถานีโทรคมนาคมแห่งชาติ เนื่องจากเป็นจุดสับเปลี่ยนรางรถไฟฟ้าโมโนเรลทำให้ขบวนรถวิ่ง2เส้นทาง คือ สถานีมีนบุรี-สถานีโทรคมนาคมแห่งชาติ และสถานีโทรคมนาคมแห่งชาติ-สถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด28
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี