วันเสาร์ ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
ค้าปลีกปี’67โต3-5%  เงินสะพัดกว่า4.4ล้านล้านบาท

ค้าปลีกปี’67โต3-5% เงินสะพัดกว่า4.4ล้านล้านบาท

วันเสาร์ ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2567, 06.00 น.
Tag : สมาคมผู้ค้าปลีกไทย
  •  

นายฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ รองประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทยเปิดเผยว่าผลการสำรวจ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ค้าปลีกทั่วประเทศ (Retail Sentiment Index - RSI) ในเดือนธันวาคม 2566 ปรับเพิ่มขึ้น 9.5 จุด จากเดือนพฤศจิกายน 2566 และปรับเพิ่มขึ้นทุกองค์ประกอบและทุกภูมิภาค จากการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายของร้านค้า และบรรยากาศส่งท้ายปลายปี ที่ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคให้คึกคักในระดับหนึ่ง

หากพิจารณาภาพรวมตลอดปี 2566 พบว่ายังเป็นการฟื้นตัวแบบไม่สมดุลในลักษณะ K-Shaped โดยส่วนที่ฟื้นตัว ได้แก่ กลุ่มห้างสรรพสินค้า-แฟชั่นความงาม-ไลฟ์สไตล์ ร้านสะดวกซื้อ และซูเปอร์มาร์เก็ต และอีกส่วนหนึ่งยังไม่ฟื้นตัว คือ กลุ่มค้าปลีกไฮเปอร์มาร์เก็ต (Hypermarket) และกลุ่มค้าส่ง-ค้าปลีกภูธร (Local Modern Store) ส่วนกลุ่มที่ทรงตัว เป็นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง-ตกแต่งและซ่อมบำรุง, สมาร์ทโฟน และไอที


ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ค้าปลีก ระยะ 3 เดือนข้างหน้า (มกราคม-มีนาคม 2567) เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.3 จุด อานิสงส์จากผลของมาตรการ Easy E-Receiptและแคมเปญการตลาดในเทศกาลตรุษจีน แต่ภาพรวมยังคงโตน้อย ไม่ก้าวกระโดด เนื่องจากความไม่ชัดเจนในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐโดยเฉพาะดิจิทัลวอลเล็ต, การอนุมัติงบประมาณประจำปี 2567 ที่อาจล่าช้า ส่งผลให้หลายโครงการของภาครัฐ เช่น ภาคท่องเที่ยว อาจต้องชะลอหรือเลื่อนการดำเนินงานออกไป

สำหรับทิศทางภาพรวมธุรกิจค้าปลีกและบริการในปี 2567 สมาคมผู้ค้าปลีกไทย คาดว่า จะมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 4.4 ล้านล้านบาท เติบโตราว 3-5% เมื่อเทียบกับ GDP ในปี 2567 ที่คาดจะเติบโต 3.5-4.4% โดยมองว่ากลุ่มธุรกิจแบบมีหน้าร้าน (Store-based retailing) จะกลับมามีมูลค่าเท่าก่อนช่วงโควิด-19 ส่วนแบบที่ไม่มีหน้าร้าน (Non-store retailing) เช่น การขายผ่านออนไลน์ (E-commerce), การขายผ่านตู้อัตโนมัติ (Vending Machine) ฯลฯ ยังคงเติบโตต่อเนื่อง

ภาพรวมค้าปลีกและบริการในปี 2567 โดยเฉพาะครึ่งปี หลังจะเริ่มส่งสัญญาณบวกแต่ยังต้องอาศัยแรงหนุนจากภาครัฐในการผลักดันโครงการและมาตรการต่างๆ ในทุกมิติอย่างเป็นรูปธรรม ชัดเจน ตรงจุด เพื่อให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้อย่างมีศักยภาพ โดยสมาคมฯ พร้อมให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วน

สมาคมผู้ค้าปลีกไทยมีข้อเสนอแนะพร้อมแนวทางเพื่อการกระตุ้นภาพรวมค้าปลีกและบริการต่อภาครัฐ ดังนี้ 1. ลดความเหลื่อมล้ำ และสนับสนุนให้เกิดการแข่งขันในการเข้าถึงสินเชื่อของ SME เช่น เปิดตลาดภาคการเงินเสรี ให้มีสถาบันการเงินใหม่ๆ เข้าสู่ระบบเพื่อให้เกิดการแข่งขันด้านดอกเบี้ย เร่งจัดหากองทุน Soft loan ดอกเบี้ยต่ำ สำหรับ SMEในเงื่อนไขไม่ซับซ้อนเข้าถึงง่าย เพื่อลดต้นทุน และเพิ่มความคล่องตัวทางการเงิน

2. อนุมัติเพิ่มการจ้างงานรูปแบบใหม่ ได้แก่ การจ้างงานอิสระ การจ้างงานประจำรายชั่วโมง โดยกำหนดค่าจ้างตามระดับคุณวุฒิวิชาชีพ ตามมาตรฐานของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เพิ่มเติมจากการพิจารณาค่าแรงขั้นต่ำ เพื่อลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานภาคปลีกและบริการ

3. ออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยมีเงื่อนไขที่ชัดเจนครอบคลุมทุกกลุ่ม ด้วยการจัดแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยว ชูจุดเด่นซอฟต์ พาวเวอร์ พร้อมให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเมืองรอง เพื่อให้เกิดการสร้างงานและกระจายรายได้ตามภูมิภาคต่างๆ

4. สร้างการแข่งขันที่เป็นธรรมด้วยมาตรการป้องกันสินค้านำเข้าราคาถูกจากจีน โดยเฉพาะการจำหน่ายบนอี-คอมเมิร์ซ เพื่อไม่ให้กระทบกับโครงสร้างราคาสินค้า SME ของไทย อาทิ กำหนดให้มีการจดทะเบียนบริษัทและมีนโยบายที่ชัดเจนด้านสินค้าและการบริการ เช่น สินค้าปลอมหรือไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงสินค้าที่ไม่ถูกต้องตามศีลธรรม รวมถึงสินค้าที่ไม่ถูกต้องตามศีลธรรม ปรับรูปแบบการเก็บภาษีออนไลน์เป็นข้อมูลธุรกรรมที่เกิดขึ้นจริง (Transaction-based)โดยแพลตฟอร์มออนไลน์ควรต้องเป็นผู้เก็บภาษีทุกครั้งที่มีการซื้อขาย เพิ่มมาตรการเก็บภาษีสินค้า Grey Market ซึ่งส่งผลให้ภาครัฐสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษี รวมทั้งเกิดความไม่เป็นธรรมทางการค้าของผู้ประกอบการในประเทศ

สำหรับผลการสำรวจความเห็นจากผู้ประกอบการต่อกรณี “อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นและการขอสินเชื่อ” พบว่าส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นแบ่งเป็น 63% ภาระหนี้เพิ่มขึ้นแต่ยังสามารถชำระได้ตามปกติ แม้ว่าภาระหนี้ที่มีอยู่จะเพิ่มขึ้นและอีก 5% อาจผิดนัดชำระหนี้, ขอปรับโครงสร้างหนี้,ขอยืดเวลาชำระหนี้ผู้ตอบ 32% ระบุว่า ธุรกิจไม่ได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น

อุปสรรคในการขอสินเชื่อจากสถาบันทางการเงินผู้ตอบ 45% ระบุว่าธุรกิจต้องเผชิญอุปสรรคการเข้าถึงสินเชื่อจากสถาบันทางการเงินมากขึ้นแบ่งเป็น 36% สถาบันทางการเงินใช้เวลาพิจารณาสินเชื่อนานขึ้นและปรับ Margin อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น, ส่วนอีก 6% ได้วงเงินสินเชื่อลดลง และอีก 3% ปรับเงื่อนไขการกู้เข้มงวดมากขึ้นผู้ตอบ 55% ระบุว่า ธุรกิจไม่ได้รับผลกระทบในการเข้าถึงสินเชื่อ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ค้าปลีกชง3กลยุทธ์“ตั้งรับ-รุกกลับ-ปรับตัว” ค้าปลีกชง3กลยุทธ์“ตั้งรับ-รุกกลับ-ปรับตัว”
  •  

Breaking News

'อนุทิน'เตรียมบินอุบลฯ ถกผู้ว่าฯ 7 จังหวัด 11​มิ.ย. นี้ แจงเปลี่ยนโปรไฟล์หนุนทหาร

ยิปซีพยากรณ์'ดวงรายวัน'ประจำวันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ.2568

‘อนุทิน’ย้ำไม่ย้ายกระทรวง ยึดข้อตกลงเดิม ย้อนจุก‘ภท.’มาตามคำเชิญ ไม่ได้เดินไปขอร่วมรัฐบาล

ผู้การนนท์เร่งสอบ'ทนายเจ้าของเงิน 12 ล้าน'ลั่น!ยังไม่ปักใจเชื่อปมลืมเงินในลังขยะ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved