นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า หรือ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่าปี 2567 เตรียมงบลงทุน 30,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าและธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ตั้งเป้าเพิ่มเป้าหมายกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นอีก 1,000 เมกะวัตต์ สนับสนุนเป้าหมายเปลี่ยนผ่านทางพลังงานไปสู่การใช้พลังงานสะอาด อีกทั้งขยายการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนใน 8 ประเทศพันธมิตรที่มีฐานทางธุรกิจ ได้แก่ ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสหรัฐ พร้อมเร่งรัดโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามแผนงาน รวมถึงบริหารการลงทุนในโรงไฟฟ้าที่มีอยู่กว่า 40 แห่ง แต่ไม่ลงทุนใหม่ในเชื้อเพลิงถ่านหิน
“มั่นใจว่าปีนี้จะมีกำไรพลิกกลับมาเป็นบวกได้จากการรับรู้รายได้เต็มปีในโครงการที่เข้าลงทุนตั้งแต่ปี 2566 และโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ ที่คาดว่าปีนี้จะปิดดีลโครงการใหม่ในรูปแบบการซื้อและควบรวมกิจการ (M&A) อีก 2-3 โครงการ และมีโอกาสสูงมากในการต่อสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวของโรงไฟฟ้า Quezon ในฟิลิปปินส์ที่จะหมดสัญญาในเดือนพฤษภาคม 2568 โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนในการเจรจา เร็วๆ นี้” นายเทพรัตน์กล่าว
นายเทพรัตน์ กล่าวว่า ในปี 2567 คาดว่าจะมีปัจจัยสนับสนุนการเติบโตจากการรับรู้รายได้เต็มปีจากโครงการที่เข้าลงทุนในปี 2566 ได้แก่ โรงไฟฟ้า RISEC กลุ่มโรงไฟฟ้า Compass บริษัทโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค CDI รวมถึงรับรู้รายได้เพิ่มจากการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้า EGCO Cogeneration ส่วนขยาย กำลังผลิตสุทธิ 74 เมกะวัตต์ จ.ระยอง เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2567
รวมทั้งทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบของโครงการ Yunlin ปัจจุบันโครงการมีความพร้อมทุกด้านในการผลักดันและเดินหน้าการก่อสร้างให้เป็นไปตามแผนงาน โดยมีกำหนดแล้วเสร็จครบ 80 ต้น กำลังผลิตรวม 640 เมกะวัตต์ภายในปี 2567 และการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบและการขายโครงการพลังงานหมุนเวียนภายใต้ APEX ตลอดจนผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า Paju ES ที่มีแนวโน้มดีอย่างต่อเนื่อง ปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในสหรัฐอเมริกาจากสภาพเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้น และปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว ซึ่งจะสามารถผลิตไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน
นายเทพรัตน์ กล่าวว่า ในส่วนของผลการดำเนินงานปี 2566 เอ็กโก กรุ๊ป ขาดทุนสุทธิ 8,384 ล้านบาท สาเหตุหลักจากการปรับโครงสร้างทางการเงินและการถือหุ้นของโครงการ Yunlin ซึ่งเป็นรายการทางบัญชีที่ไม่กระทบกระแสเงินสดและไม่กระทบอัตราส่วนทางการเงินตามเงื่อนไขสัญญาเงินกู้ แต่ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2566 ยังมีกระแสเงินสด 28,862 ล้านบาท มีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 1.31 เท่า ถือว่าอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง
โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 มีมติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น (AGM) ประจำปี 2567 ให้จ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังของปี 2566 ในอัตรา 3.25 บาทต่อหุ้น หลังจากได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 12 เมษายน 2567 จะทำให้ทั้งปี 2566 มียอดจ่ายปันผลทั้งหมดอยู่ที่ 6.50 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทนประมาณ 5% สะท้อนสภาพคล่อง สถานะทางการเงินและพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่ง
นายเทพรัตน์ กล่าวว่า สภาพแวดล้อมทางธุรกิจในปี 2566 มีปัจจัยที่ท้าทายหลายด้าน ทั้งจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป นโยบายทางการเงินที่เข้มงวด กดดันราคาพลังงานและการเติบโตของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความท้าทายดังกล่าว บริษัทยังสามารถสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเลือกลงทุนในโครงการที่มีคุณภาพสูง ในรูปแบบ M&A เพื่อรับรู้รายได้ทันที โดยในปี 2566 สามารถปิดดีลการลงทุนได้ 3 โครงการ ทั้งโครงการในสหรัฐอเมริกาและในอินโดนีเซีย
สำหรับ 3 โครงการที่ปิดดีล ได้แก่ การซื้อหุ้น 49% ในโรงไฟฟ้า RISEC กำลังผลิต 609 เมกะวัตต์ และการซื้อหุ้น 50% ในกลุ่มโรงไฟฟ้า Compass กำลังผลิตรวม 1,304 เมกะวัตต์ในสหรัฐอเมริกา การขยายสู่ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค โดยปิดดีลซื้อหุ้น 30% ใน CDI ในอินโดนีเซีย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี