นายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า มาตรการแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต ถือเป็นนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย มีวัตถุประสงค์ชัดเจนในการสร้างกำลังซื้อเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยต้องการให้เกิดการหมุนเวียนของเงินหลายรอบให้มากที่สุด ซึ่งเป็นการกระชากเครื่องยนต์เศรษฐกิจที่ล้าลงไปในช่วงโควิดที่ผ่านมา ทำให้เศรษฐกิจไทยตกต่ำในรอบ 10 ปีมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยไม่ถึง 2% ถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคเดียวกัน
ทั้งนี้มาตรการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่รัฐบาลประกาศความชัดเจนว่า สามารถใช้ได้ในช่วงไตรมาส 4/2567แล้ว ถือเป็นเรื่องดี โดยเฉพาะเรื่องแหล่งที่มาของเงินไม่ต้องใช้เงินกู้ผ่านการออกพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) ตามที่หลายฝ่ายกังวล แต่มีข้อจำกัดเรื่องผู้ค้าปลีกรายย่อยยังไม่เข้าระบบเพราะกังวลภาษี จึงไม่ได้รับอานิสงส์ ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นกติกาที่ได้วางไว้ดังนั้นจึงอยากให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบที่ถูกต้อง เพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้เต็มที่
“โดยส่วนตัวมองว่าเงื่อนไขโครงการดิจิทัล วอลเล็ต มีความครอบคลุมพื้นที่และกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งช่วยกระจายโอกาสและรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งกว่ามาตรการดิจิทัล วอลเล็ตจะใช้ได้ในช่วงไตรมาส 4/2567 ทางรัฐบาลต้องหามาตรการอื่นมาพยุงเศรษฐกิจด้วย เช่น เร่งรัดการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อให้มีเงินอัดฉีดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจต่อเนื่อง ขอให้เร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ ของภาครัฐ เพื่อไม่ให้ระหว่างปีว่างเว้นการกระตุ้นเศรษฐกิจ” นายเกรียงไกรกล่าว
นายเกรียงไกรกล่าวว่าในส่วนกรณีที่หลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่าเงื่อนไขของดิจิทัล วอลเล็ต เปิดโอกาสให้ร้านสะดวกซื้อเข้าร่วมโครงการได้นั้น ส่วนตัวมองว่าในร้านสะดวกซื้อก็จำหน่ายสินค้าที่ผลิตโดยผู้ประกอบการไทย ใช้วัตถุดิบในประเทศไทย ไม่ใช่สินค้านำเข้า ก็ถือว่ายังช่วยให้เงินหมุนเวียนในประเทศไทยเช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี