บริษัท แอพเพิล ออโต้ ออคชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการจัดการประมูลรถยนต์รายใหญ่ภายในประเทศ แจ้งข่าวว่าภาพรวมตลาดรถยนต์ภายในประเทศเมื่อจบไตรมาสแรกของปี 2567 ดูไม่สดใส อยู่ในเกณฑ์ชะลอตัว ถ้าดูจากปริมาณการขายรถยนต์ใหม่ภายในประเทศยอดขายไตรมาสแรกประมาณ 163,800 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 24.5% ถือว่าลดลงค่อนข้างมาก และเป็นการลดลงของยอดขายรถยนต์ใหม่ทุกเซ็กเมนต์ โดยเฉพาะรถยนต์นั่ง และรถยนต์กระบะ ยอดลดลงมากกว่า 40% ทั้ง 2 ประเภท ในขณะที่ตลาดรถยนต์มือสองก็อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน คาดว่ามูลค่าขายน่าจะลดลงประมาณ 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน
นายอนุชาติ ดีประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอพเพิล ออโต้ ออคชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการจัดการประมูลรถยนต์รายใหญ่ภายในประเทศ กล่าวว่า เมื่อมองตลาดรถยนต์ในช่วงแรกของปี 2567 และต่อเนื่องไปจนสิ้นสุดครึ่งแรกของปี 2567 คาดว่าสถานการณ์การตลาดรถยนต์คงอยู่ในสภาพที่ยังไม่มีปัจจัยบวกที่จะมากระตุ้นตลาดรถยนต์ในขณะนี้ เพราะจากสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่ดีขึ้น กอปรกับผู้บริโภคที่ต้องเผชิญกับกำลังซื้อที่อ่อนแอลง ในขณะที่สถาบันการเงินหลายแห่งก็ผ่านวิกฤติ NPLs มาตั้งแต่ต้นปี 2566 ทำให้ความเข้มงวดของสถาบันการเงินต่างๆ ยังคงรัดกุมในการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ทำให้ไม่มีปัจจัยส่งเสริมให้การขายรถยนต์กระเตื้องขึ้นได้ เพราะต้องยอมรับว่าปัจจัยการขายส่วนใหญ่มาจากการสนับสนุนสินเชื่อของสถาบันการเงิน
สถานการณ์ตลาดรถยนต์ในไตรมาส 2 ของปี 2567 ยังคงไม่สดใส เนื่องจาก
1.โดยปกติหลังเดือนเมษายนของทุกปีจะเข้าสู่ช่วง Low Season ของการซื้อขายรถยนต์ และเดือนพฤษภาคมต่อเนื่องไปจะเข้าสู่ฤดูฝน การซื้อขายจะไม่คึกคักอยู่แล้ว
2.จากภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่มีปัจจัยบวกมาเพิ่มความเชื่อมั่นในตลาด ทำให้การตัดสินใจของผู้บริโภคจะชะลอการซื้อรถยนต์ไปก่อน
3.การเปิดตัวของรถยนต์ EV ในรอบปีที่ผ่านมา เหมือนจะเป็นการกระตุ้นตลาดรถยนต์ เพราะความสนใจของผู้บริโภคมีมาก แต่ด้วยการแข่งขันเรื่องราคารถยนต์ EV ทำให้ส่งผลกระทบต่อราคารถยนต์สันดาป ทำให้ผู้บริโภคไม่มั่นใจในเรื่องราคารถยนต์ช่วงนี้ว่าจะลดลงหรือไม่ ทำให้เกิดการชะลอการซื้อไว้ก่อน
4.ขณะเดียวกัน สถาบันการเงินต่างๆ ไม่มั่นใจกับราคารถยนต์ที่เกิดจากการแข่งขัน ทำให้มีการปรับยอดการให้สินเชื่อ (LTV) จึงไปส่งผลกระทบต่อการขายรถยนต์มือสองไปด้วย
นายอนุชาติ กล่าวต่อว่า ตลาดรถยนต์มือสองก็หนีไม่พ้นวิกฤตตลาดซบเซาไปด้วย เพราะเมื่อรถยนต์ใหม่ขายได้ลดลง การหมุนเวียนไปสู่ตลาดรถยนต์มือสองก็เป็นวงเวียนไป และปัจจัยที่เป็นผลกระทบอยู่ในลักษณะเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตาม ตลาดรถยนต์มือสอง จะมาช่วยตอบโจทย์การซื้อขายได้ในประเด็นที่เมื่อเศรษฐกิจยังไม่ดี แต่ความต้องการซื้อรถยนต์ไว้ใช้ดำรงชีพ หรือประกอบอาชีพยังมีความจำเป็น ผู้บริโภคก็หันมาซื้อรถยนต์มือสอง เพราะสามารถลดภาระในการหาเงินก้อนใหญ่ได้
แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ราคารถยนต์มือสองในตลาดการประมูลรถยนต์ ยังขยับตัวขึ้นเล็กน้อยประมาณ 3-5% จากสิ้นปี 2566โดยเฉพาะรถในรุ่นที่ตลาดมีความต้องการสูง เช่น รถกระบะทั้ง Double cap และ Single cap ที่ผู้บริโภคซื้อไปเพื่อประกอบธุรกิจ
สำหรับรถยนต์เก๋งขนาดกลาง และเล็ก ราคาแกว่งต่ำลดลงประมาณ 5-7% จากการปรับนโยบายการให้สินเชื่อของสถาบันการเงิน ที่อาจมองว่ากลุ่มผู้ใช้รถยนต์ประเภทนี้ยังมีความเสี่ยงในเรื่องสถานะทางการเงิน
นายอนุชาติ คาดการณ์ถึงแนวโน้มครึ่งปีหลัง 2567 กับการคาดหวังตลาดกลับมาว่าในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 ยังมองในมุมบวกว่าตลาดจะดีขึ้น หรืออย่างน้อยก็ไม่ลดลงไปกว่าครึ่งแรกของปี โดยจะมีปัจจัยที่สนับสนุนคือ
1.จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ที่จะมีเงินลงทุนจากงบประมาณ และปัจจัยกระตุ้นที่เกิดขึ้น ทั้งจากภาคการท่องเที่ยวจะทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคมีความหวังมากขึ้น
2.ปัจจัยที่มีผลกระทบจากต่างประเทศ ทั้งสงคราม ราคาน้ำมันอาจมีความกังวลน้อยลง เพราะผู้บริโภครับรู้ข่าวสารไปหมดแล้ว
3.จากภาคสถาบันการเงินต่างๆ มีการจัดการกับหนี้ด้อยคุณภาพ (NPLs) ที่ได้ช่วยเหลือโดยการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และการชะลอการปล่อยสินเชื่อจะกลับมาพิจารณาการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น เพราะยอดสินเชื่อซึ่งเป็นธุรกรรมทางการเงินลดลงไปมาก จึงต้องกลับมาเติมพอร์ตสินเชื่อประเภทนี้กลับคืนมา
4.ความจำเป็นของการใช้รถยนต์ทั้งใช้ในชีวิตประจำวัน และใช้ประกอบธุรกิจ ยังมีความจำเป็นอยู่มาก ทำให้เกิด Demand ของรถยนต์ในตลาดตลอดเวลา
นายอนุชาติ ดีประเสริฐ สรุปสถานการณ์ตลาดรถยนต์ ทั้งใหม่ และมือสอง จะกลับมาสู่สภาวะที่ดีขึ้นในช่วงปลายปี 2567 โดยเชื่อมั่นว่าผู้ประกอบการรถยนต์จะปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาการให้บริการให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนตลอดเวลาได้ ถึงแม้จะเป็นช่วงวิกฤตที่ยาวนานพอสมควร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี