นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1/2567 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 45,955 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 10.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีรายได้รวม 41,507 ล้านบาท มีปัจจัยสำคัญจากการเติบโตของรายได้การขนส่งผู้โดยสารด้วยบริการเที่ยวบินขนส่งที่เพิ่มขึ้นและความต้องการเดินทางที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเส้นทางทวีปยุโรป ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น

โดยมีค่าใช้จ่ายรวม 34,880 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 22.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นตามปริมาณการผลิต และ/หรือปริมาณการขนส่งจำนวนเที่ยวบิน จุดบิน และผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น การอ่อนค่าของเงินบาทรวมทั้งอัตราค่าบริการภาคพื้นและราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายปรับตัวสูงขึ้นในภาพรวม และส่งผลให้มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงินไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว 11,075 ล้านบาท ลดลง 15.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้มีต้นทุนทางการเงินซึ่งเป็นการรับรู้ตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9(TFRS 9) จำนวน 4,608 ล้านบาท มีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวสุทธิเป็นค่าใช้จ่าย 4,036 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นรายการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 5,372 ล้านบาท การด้อยค่าของเครื่องบินและสินทรัพย์สิทธิการใช้ และอุปกรณ์การบินหมุนเวียน 3,338 ล้านบาท แต่มีรายการปรับปรุงรายได้บัตรโดยสารที่หมดอายุ 4,136 ล้านบาท กำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ 493 ล้านบาท และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม 36 ล้านบาท

โดยส่งผลให้ในไตรมาส 1/2567 มีกำไรสุทธิ 2,423 ล้านบาท ลดลง 80.7% และมี EBITDA หลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามเงื่อนไขสัญญาเช่าเครื่องบินรวมค่าเช่าเครื่องบินจากการใช้เครื่องบินที่เกิดขึ้นจริง(Power by the Hours) 14,000 ล้านบาทใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เป็นเงินจำนวน 14,054 ล้านบาท

นายชายกล่าวว่า ในไตรมาส 1/2567 มีรายได้บัตรโดยสารรวม 38,517 ล้านบาทแบ่งเป็น รายได้จากผู้โดยสารทั่วไป 38,387 ล้านบาท และจากส่วนราชการภายในประเทศ 130 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.3% ของรายได้บัตรโดยสารรวม โดยเป็นรายได้จากเส้นทางยุโรป 34.5% เอเชียเหนือ 32.8% เอเชียตะวันตกและตะวันออกกลาง 11.9% ออสเตรเลีย 7.2% อาเซียน 7.7% และเส้นทางภายในประเทศ 5.9%