วันอาทิตย์ ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
'ดร.สุชาติ'ชี้ทำให้ศก.​โต5-6% รบ.ควรตั้งกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ​3-4% โดยเพิ่มปริมาณเงิน-ลดดอกเบี้ย

'ดร.สุชาติ'ชี้ทำให้ศก.​โต5-6% รบ.ควรตั้งกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ​3-4% โดยเพิ่มปริมาณเงิน-ลดดอกเบี้ย

วันจันทร์ ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2567, 16.13 น.
Tag : เงินเฟ้อ ดอกเบี้ย แนวหน้าออนไลน์ เศรษฐกิจ
  •  

'ดร.สุชาติ'ชี้การทำให้เศรษฐกิจ​เติบโต​ 5-6% รัฐบาลควรตั้งกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ​เป็น​ 3-4% โดยเพิ่มปริมาณเงิน ลดดอกเบี้ย​ ทำให้การลงทุนเพิ่มขึ้น และทำให้ค่าเงินบาทอ่อนลง แข่งขันได้ จะทำให้การส่งออกการท่องเที่ยว​ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ​เพิ่มขึ้น

เมื่อวันที่ 20 พ.ค.2567 ศ.ดร.สุชาติ​ ธา​ดา​ธำ​รง​เวช​ อดีตรัฐมนตรี​ว่าการกระท​รวงการคลัง​ และผู้​เชี่ยวชาญ​ Macro-econometric​s​ เสนอว่า​  1. หากรัฐบาลต้องการให้​ระบบเศรษฐกิจ​ไทย​เติบโตสูงขึ้น​ มี​ความสามารถในการผลิต​ (Potential GDP) เป็น​ 5-6% นั้น อัตราดอกเบี้ย, อัตราเงินเฟ้อ​ และอัตราแลกเปลี่ยน​ นับเป็นตัวแปรที่สำคัญ


2.อัตรา​แลกเปลี่ยนเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่สุด​ หากเทียบ​ 10 ปีที่ผ่านมา​ ตอนนี้ค่าเงินบาท​แข็งกว่าเกือบทุกประเทศในโลก​ เช่น​ แข็งกว่า​สหรัฐ15%, ญี่ปุ่น​45%, เวียดนาม​44%, มาเลเซีย​25%, อินเดีย60% และแข็งกว่าจีน, เกาหลี, อินโดนีเซีย​ และประเทศอื่นๆ​ ซึ่งทำให้​การส่งออกไม่เติบโต,​ การลงทุนจากต่างประเทศ​(FDI)​ บินไปที่อื่น​เพราะ​เขาซื้อค่าแรงงาน, ค่าไฟ​ฟ้า ได้ถูกกว่า.. 

3.ค่าเงินบาทแข็งเกินไป​ เพราะปริมาณเงิน​ (M2)​เพิ่มน้อยไป เนื่องจากดอกเบี้ยที่แท้จริง (ดอกเบี้ยหักเงินเฟ้อ)​ ของทางการสูงไป​ในตลอด​ 10 ปีทึ่ผ่านมา​ ทำให้เงินเฟ้อต่ำไป​ ค่าเงินแข็งไป​ ทำให้รายได้จากการส่งออกและท่องเที่ยวต่ำไป มีผลให้ความเจริญ​เติบโตของ GDP​ ต่ำ​ ซึ่งไปลด​กำลังการผลิต​(Capacity utilization rate) และลด​ความสามารถในการผลิต​ (Potential GDP) ให้อยู่ในระดับต่ำ​เพียง 2-3%

4.ผู้ว่าแบงค์ชาติ​ต้องการให้รัฐบาลไปเพิ่ม​ Potential GDP โดยตรงเลย​ โดยให้รัฐบาลเพิ่ม​โครงสร้างบริการพื้นฐาน (Infrastructure) ให้เอกชนเพิ่มการลงทุน​ใช้เทคโนโลยี่​ใหม่​ ซึ่งต้องใช้เวลาและไม่ง่าย เพราะเครื่องมือเครื่องจักรเกือบทั้งประเทศ​ ยังใช้ไม่เต็มที่เลย​ ยังไม่มีเงินกำไรมากพอ​ซื้อ​เทคโนโลยี​ใหม่

5.รัฐบาลต้องการเพิ่ม​ความเจริญ​เติบโตของ GDP ด้วยการเพิ่มเงินใหม่​ โดยโครงการ Digital wallet 500,000 ล้านบาท​ นอกจากจะติดขัดด้านกฎหมายแล้ว​ หากแบงค์ชาติ​ไม่ยอมให้ปริมาณเงิน​ (M2)​ เพิ่ม​ขึ้นในระบบเศรษฐกิจ​ ก็เท่ากับว่า​ รัฐบาลไปกู้หรือไปเก็บภาษี​มามากขึ้น​ ในขณะที่​ M2​ มีเท่าเดิม ซึ่งจะทำให้ปริมาณเงินที่เอกชนและประชาชนใช้อยู่​ลดน้อยลง​ จึงอาจเกิด​ปัญหา​การแย่งเงินกัน​ (Clouding out effect) ซึ่งจะทำให้​ความเจริญเติบโต​ของ GDP  แทบไม่เพิ่มขึ้น​ โดยยังมีข้อดีคือ​ เกิดการกระจายรายได้ดีขึ้น

6.กระผมขอเสนอให้​กระทรวงการคลังและแบงค์ชาติ​ปรับกรอบเงินเฟ้อจาก​ 1-3% ในปัจจุ​บัน​ เป็น​ 3-4​% และให้แบงค์​ชาติ​รับผิดชอบ​(Accountable) โดยดูค่าเฉลี่ยในช่วง​ 3 เดือนล่าสุด​

7. หากตกลงกันเช่นนี้​แล้ว แบงค์ชาติ​ก็ต้องไปเพิ่ม​ปริมาณเงิน (QE)​, และไปลดดอกเบี้ยทางการ​ เพื่อให้เงินเฟ้ออยู่ในกรอบ​ 3-4% ค่าเงินบาทก็จะอ่อนลงแข่งขันได้ดีขึ้น, การส่งออกและท่องเที่ยว,​ การลงทุน และ​ FDI ก็จะเพิ่มขึ้น​ ซึ่งไปเพิ่ม​ GDP​ growth​ มีผลให้​การใช้กำลังการผลิต (Capacity utilization) เพิ่มขึ้น​ มีการซื้อเครื่อง​มือเครื่องจักร​เทคโนโลยี​ใหม่ ซึ่งจะไปเพิ่ม​ความสามารถ​ในการผลิต (Potential GDP) ให้สูงขึ้นในระยะยาว

8. ความจริงประเทศกำลังพัฒนา​ ควรมีเงินเฟ้อ​ 3% กว่าๆ​ เพื่อให้​ไปเพิ่ม​อัตรา​ความเจริญเติบโต​ของ GDP, เพิ่มการจ้างงาน​ และเพิ่มค่าแรงงาน ประเทศใน​ ASEAN​ ส่วนใหญ่เงินเฟ้อเกิน​ 3%

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • กูรูศก.ชี้ไทยถกสหรัฐยาก หลังเวียดนามปิดดิลล์ด้วยภาษี0% กูรูศก.ชี้ไทยถกสหรัฐยาก หลังเวียดนามปิดดิลล์ด้วยภาษี0%
  • ศก.ไทยพ.ค.ชะลอ การผลิตภาคอุตฯ-ท่องเที่ยวลดลง ศก.ไทยพ.ค.ชะลอ การผลิตภาคอุตฯ-ท่องเที่ยวลดลง
  • กรุงศรีหนุนอุตฯหลักใหม่ เชื่อมญี่ปุ่น-อาเซียนสู่อนาคตยั่งยืน กรุงศรีหนุนอุตฯหลักใหม่ เชื่อมญี่ปุ่น-อาเซียนสู่อนาคตยั่งยืน
  • ธอส.เปิดประมูลบ้านมือสองหั่นราคาสูงสุด50% ธอส.เปิดประมูลบ้านมือสองหั่นราคาสูงสุด50%
  • ธอส. จัดประมูลทรัพย์เด่นกว่า 9 พันรายการ 28 มิ.ย.นี้ ธอส. จัดประมูลทรัพย์เด่นกว่า 9 พันรายการ 28 มิ.ย.นี้
  • SCB EIC คาด กนง.ลดดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 1.25% ภายในสิ้นปีนี้ SCB EIC คาด กนง.ลดดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 1.25% ภายในสิ้นปีนี้
  •  

Breaking News

'อดีต ส.ว.สมชาย'สรุปฟังไต่สวนพยานคดีชั้น 14 บอกพยานเท็จอาการหนักมาก!!!

น้ำใจทหารไทย! เปิดด่านฉุกเฉินส่ง'อดีตรองเสธ.กัมพูชา' ป่วยมะเร็ง กลับบ้านอย่างอบอุ่น

ครั้งแรกในรอบ102ปี! 'ฝรั่งเศส'เปิดให้พลเมืองเล่นน้ำในแม่น้ำแซน การันตีคุณภาพน้ำดีเยี่ยม

ไม่ใช่มีแค่ถนนพระราม 2 สะพานพระราม 4 เกิดเหตุป้ายเหล็กขนาดใหญ่ตกใส่รถพังเสียหาย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved