นายกฯจี้3กรมภาษี
แก้เก็บรายได้ต่ำเป้า
คลังยันมีแผนจัดการ
ชี้1หมื่นรับพร้อมกัน
นายกฯ เรียก 3 กรมหารือขยายช่องจัดเก็บภาษี เพิ่มรายได้เข้ารัฐ ลั่นไตรมาส 4 เศรษฐกิจดีขึ้นมากแน่นอน ด้าน “ปลัดคลัง” เผยนายกฯ
ต้องการติดตามความคืบหน้าจัดเก็บรายได้ มั่นใจคลังยังจัดเก็บรายได้ตามเป้า อุบแหล่งเงินงบฯเพิ่มเติม 1หมื่นล้าน “เอกนิติ” แจงสรรพสามิตรายได้ต่ำเป้าจากการตั้งเป้าสูงมาก ชี้ปีนี้เก็บรายได้เพิ่มแล้วกว่า 11% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่‘รมช.คลัง’ชี้กลุ่มเปราะบางได้เงิน‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ก่อน เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน ยัน 50 ล้านคนรับพร้อมกันทั่วประเทศ ไตรมาส 4
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 5 มิถุนายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมหน่วยงานจัดเก็บภาษี เข้าประชุมบนตึกไทยคู่ฟ้า โดยมีนายพิชัย ชุณหวิชร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง และกรมสรรพสามิต กรมศุลกากร และกรมสรรพากร
หลังประชุมนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการรายงานให้นายกฯรับทราบเกี่ยวกับการดำเนินงานจัดเก็บรายได้ของกระทรวงการคลัง ซึ่งนายกฯต้องการทราบความคืบหน้า
ผู้สื่อข่าวถามว่าปัจจุบันการจัดเก็บรายได้ยังต่ำกว่าเป้า กระทรวงการคลังมีแผนดำเนินการอย่างไร ปลัดกระทรวงการคลังกล่าวว่า กระทรวงการคลังมีแผนดำเนินการอยู่แล้ว เมื่อถามถึงงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมปี 2567 ที่ตั้งเป้าจัดเก็บรายได้เพิ่มเติมไว้ 1 หมื่นล้านบาท จะมาจากแหล่งรายได้ใดนั้นกระทรวงการคลังมีแหล่งรายได้อยู่แล้ว เรามีเงินเรียบร้อยแล้ว เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าแหล่งเงินจะมาจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท ใช่หรือไม่ นายลวรณปฎิเสธว่า ไม่ใช่ แต่ตรงนี้มีแหล่งเงินแน่นอนแล้ว
ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวถึงการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตที่จัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าประมาณ 2.4 หมื่นล้านบาทว่า เรื่องนี้ส่วนหนึ่งมาจากเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้สูงมาก โดยให้กรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้สูงขึ้น 25% ทั้งนี้ การจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตในปีนี้หากเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาก็ยังถือว่าสูงขึ้น โดยการจัดเก็บรายได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566-พฤษภาคม 2567 ก็สูงขึ้นกว่าเดิมถึง 11% โดยช่วงเดือนตุลาคม 2566 - เมษายน 2567 นั้นสูงกว่าเป้าประมาณ 9% เมื่อรัฐบาลยกเลิกมาตรการ การอุดหนุนภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ก็ทำให้การจัดเก็บรายได้ของกรมฯเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งในระยะต่อไปก็มั่นใจว่าการจัดเก็บรายได้ของกรมฯจะค่อยๆเพิ่มขึ้นตามลำดับ ส่วนการประเมินการจัดเก็บรายได้ของกรมฯทั้งปีในปีนี้อยู่ระหว่างประเมิน แต่เชื่อว่าทิศทางจะดีขึ้นเรื่อยๆ
“ขนาดที่จีดีพีโตได้ประมาณ 2% แต่เราก็ยังจัดเก็บรายได้ ได้สูงกว่าเป้า และสูงกว่าจีดีพีมาก ตอนนี้ก็สูงกว่าปีก่อนถึง 11% ที่ผ่านมากรมฯได้สนับสนุนทั้งนโยบายการลดภาษีน้ำมัน และภาษีสรรพสามิตของรถ EV ซึ่งก็ช่วยให้ประเทศไทยมีการลงทุนของอุตสาหกรรมนี้มากขึ้น อุตสาหกรรมรถ EV ที่เราเก็บภาษีแค่ 2% ส่วนภาษีรถยนต์สันดาปเราเก็บภาษีได้ 25-30% ซึ่งแม้ว่าจัดเก็บภาษีน้อยลงก็ทำให้ยอด EV มียอดการเติบโตถึง 600% ในปีนี้ ช่วยสร้างอุตสาหกรรมใหม่”อธิบดีกรมสรรพสามิต ระบุ
ก่อนหน้าการประชุม นายกฯให้สัมภาษณ์กรณีเรียกหน่วยงานจัดเก็บภาษีเข้าพบว่ามีเรื่องโครงการดิจิทัลหรือไม่ว่า ไม่มี วันนี้ประชุมเรื่องจัดเก็บรายได้ของทั้ง 3 กรมคือ กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร และดูว่าตรงไหนสามารถทำได้อีกหรือส่วนไหนที่เราเร่งทำ ก็จะทำให้รายได้ของประเทศเพิ่มขึ้นก็จะทำ
ผู้สื่อข่าวถามว่าแนวโน้มเศรษฐกิจภาพรวมรายได้ของเราเพียงพอไม่จำเป็นต้องกู้แล้วใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ขณะนี้ทุกอย่างยังเป็นไปตามแผนงาน แต่ตอนนี้ครึ่งปีแล้ว ก็ต้องมานั่งดูว่าตรงไหนที่ต้องลดหรือเพิ่ม ต้องดูเรื่องการบริหารจัดการรายจ่ายให้ดี ทั้งเรื่องมาตรการสนับสนุนด้านภาษี ที่ให้นักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งเราต้องมาดูว่าตรงไหนที่จะทำอะไรได้บ้าง เพราะเรื่องรายได้เป็นเรื่องสำคัญ
ส่วนเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น กำลังดูอยู่ เป็นเรื่องสืบเนื่องจากการประชุมคณะทำงาน ที่เกี่ยวกับเรื่อง เศรษฐกิจก็จะดูว่าเศรษฐกิจมีปัญหาอะไร เราจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างไร เส้นทางกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังทำอยู่
“ผมคิดว่าไตรมาส 4 เศรษฐกิจดีขึ้นแน่นอน ดีขึ้นมาก แต่ตอนนี้กำลังดูไตรมาส 3 อยู่ว่าทำอย่างไรที่จะให้ดีขึ้นกว่าเดิมอีกหน่อย เพราะตอนนี้เงินงบประมาณก็เริ่มผันจ่ายออกไปได้บ้างแล้ว วันนี้คงพูดคุยถึงเรื่องปัญหา ว่าจะมีหรือไม่ หากมีการผันเงินงบประมาณออกไปให้ได้เร็วที่สุด”นายกฯกล่าว
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลังชี้แจงถึงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตหลังมีการระบุจะแจกกลุ่มเปราะบางก่อนในวันที่ 30 กันยายน โดยยืนยันว่าได้ประกาศไปแล้ว จะมีการลงทะเบียนประชาชน และเริ่มลงทะเบียนร้านค้าในไตรมาสที่ 3 ในส่วนการจ่ายเงินจะจ่ายงวดเดียวทั้งก้อน ทุกคนได้เงิน 10,000 บาท และ 50 ล้านคนได้พร้อมกันยังคงเป็นแนวนั้นอยู่ อาจมีการเข้าใจกันคลาดเคลื่อน จึงขอชี้แจงในวันนี้ยืนยันว่าจะมีการจ่ายเงินได้ภายในไตรมาส 4
“ยืนยันว่า จะไม่มีการพิจารณาให้กลุ่มไหนก่อน เพราะคณะกรรมการดิจิทัล ไม่เคยมีการพิจารณาจะให้กลุ่มไหนตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ทุกคนควรได้พร้อมกันในระยะเวลาเดียวกัน และจำนวนเงินที่เท่ากัน เพื่อที่การกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะมีเม็ดเงินจำนวนมากลงไปในระบบพร้อมๆกัน”รมช.คลังระบุ และว่า ส่วนแหล่งเงินกู้ในโครงการนั้น ย้ำว่าขณะนี้แหล่งเงินกู้ถูกเปิดเผยออกมาอย่างชัดเจน ส่วนหนึ่งมาจากงบกลางปีเพิ่มเติมปีงบประมาณ 2567 วงเงิน 112,000 ล้านบาท และเงินจากการขยายงบขาดดุลเพิ่มขึ้น รวมถึงวงเงินตามมาตรา 28 จากธนาคารเพื่อการเกษตาและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.)ยืนยันว่าการพัฒนาซูเปอร์แอป อยู่ในไทม์ไลน์เดิม จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนไตรมาส 3 และกระจายเงินให้ประชาชนไตรมาส 4 ปีนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี